อาการปวดฟัน: สัญญาณเตือนจากร่างกายที่คุณไม่ควรมองข้าม

ปวดฟัน

บทนำ: ปวดฟันคืออะไร และทำไมจึงปวด?

อาการปวดฟัน (Toothache) คือความรู้สึกไม่สบายหรือความเจ็บปวดบริเวณฟันหรือรอบๆ ขากรรไกร ความปวดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็น สัญญาณเตือน ที่สำคัญที่สุดจากร่างกายว่าเกิดความเสียหายขึ้นในโครงสร้างฟันหรือเนื้อเยื่อรอบๆ แล้ว การเพิกเฉยต่อความปวดนี้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

1. อาการปวดฟัน บ่งบอกถึงอะไรบ้าง? (การวินิจฉัยเบื้องต้น)

ลักษณะของอาการปวดฟันสามารถบ่งชี้ถึงสาเหตุและความรุนแรงของปัญหาที่แตกต่างกันได้

ลักษณะอาการปวดสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ระดับความรุนแรง
ปวดจี๊ดเมื่อโดนของเย็น/หวาน และหายไปเร็วฟันผุระยะเริ่มต้น, ฟันสึก, เหงือกร่น (เปิดเนื้อฟัน)เบื้องต้น (มักแก้ไขได้ง่าย)
ปวดตุบๆ เป็นจังหวะ, ปวดตลอดเวลาฟันผุลึกถึงโพรงประสาทฟัน, มีการอักเสบ/ติดเชื้อของประสาทฟันปานกลางถึงรุนแรง (ต้องการรักษารากฟัน)
ปวดเมื่อกัดหรือเคี้ยวอาหารฟันร้าว, ฟันแตก, วัสดุอุดฟันหลุด, ฟันผุลึก, ปัญหาข้อต่อขากรรไกรปานกลาง (ต้องหาสาเหตุที่ทำให้เกิดแรงกด)
ปวดเหงือก, เหงือกบวมแดง, มีหนองโรคเหงือกอักเสบ, โรคปริทันต์, ฝีที่ปลายรากฟัน (Abscess)รุนแรง (มีการติดเชื้อ)
ปวดร้าวไปที่หู, ขมับ, หรือลำคอฟันคุดที่กำลังขึ้น, การติดเชื้อลุกลาม, ปัญหาข้อต่อขากรรไกรรุนแรง (ปวดร้าว – Referred Pain)
ปวดฟันหลังการรักษา (เช่น อุดฟัน)การปรับการสบฟันไม่เหมาะสม, ฟันมีความไวต่อการรักษาเบื้องต้น (มักจะดีขึ้นเองใน 1-2 สัปดาห์)

2. ปวดฟันทำยังไง และนำไปสู่อะไรหากละเลย?

ปวดฟันทำยังไง? (การดำเนินการที่ถูกต้อง)

  1. ห้ามละเลย: หากมีความปวดแม้เพียงเล็กน้อย ควรนัดหมายทันตแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุทันที
  2. หลีกเลี่ยงการกระตุ้น: งดการเคี้ยวอาหารบริเวณที่ปวด และหลีกเลี่ยงอาหารที่ร้อนจัด เย็นจัด หรือหวานจัด
  3. บันทึกอาการ: สังเกตและบันทึกว่าอาการปวดเกิดขึ้นเมื่อใด, ปวดนานแค่ไหน, และปวดลักษณะใด เพื่อแจ้งข้อมูลให้ทันตแพทย์อย่างละเอียด

ปวดฟันนำไปสู่อะไรหากละเลย?

การปวดฟันที่เป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือการอักเสบ เช่น ฟันผุลึก หากละเลย อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย:

  • การติดเชื้อลุกลาม (Dental Abscess): หนองจะสะสมที่ปลายรากฟัน ซึ่งอาจลุกลามไปยังกระดูกขากรรไกรและเนื้อเยื่ออ่อนบริเวณใบหน้า
  • การติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด: ในกรณีที่รุนแรง การติดเชื้อจากฟันสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย (เช่น ช่องคอ, สมอง) ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
  • ปวดฟันจนจี๊ดขึ้นสมอง: อาการปวดรุนแรงนี้มักเกิดจากการอักเสบเฉียบพลันของโพรงประสาทฟัน (Pulpitis) ซึ่งทำให้เกิดการกดทับของเส้นประสาทภายในฟัน ความปวดจะรุนแรงจนร้าวไปถึงศีรษะและหู นั่นแสดงว่าการอักเสบได้ดำเนินไปถึงขั้นวิกฤตแล้ว และมักต้องได้รับการรักษารากฟันฉุกเฉิน

3. ปวดฟัน วิธีแก้ด้วยตัวเองทำยังไง (การปฐมพยาบาลเบื้องต้น)

วิธีการเหล่านี้ใช้เพื่อบรรเทาอาการชั่วคราวก่อนถึงมือทันตแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่วิธีรักษาปัญหาที่ต้นเหตุ:

  • ทำความสะอาด: แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดเศษอาหารที่อาจติดอยู่บริเวณที่ปวด
  • ประคบเย็น: ใช้ผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งประคบบริเวณแก้มด้านนอกเพื่อลดอาการบวมและชาความรู้สึกปวด
  • น้ำเกลืออุ่น: กลั้วปากด้วยน้ำเกลืออุ่น (เกลือ 1 ช้อนชา ต่อน้ำอุ่น 1 แก้ว) ช่วยฆ่าเชื้อและลดอาการอักเสบ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อน: ไม่ควรใช้น้ำอุ่นหรือแผ่นประคบร้อนประคบโดยตรง เพราะอาจทำให้อาการบวมและอักเสบรุนแรงขึ้น

4. ปวดฟันกินยาอะไรได้บ้าง? (การใช้ยาบรรเทาอาการ)

ยาที่ใช้สำหรับอาการปวดฟันมักเป็นยาบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ ซึ่งควรใช้ตามคำแนะนำของเภสัชกรหรือทันตแพทย์เท่านั้น

  • กลุ่มยาแก้ปวดพื้นฐาน (Non-Opioids):
    • พาราเซตามอล (Paracetamol/Acetaminophen): ใช้บรรเทาอาการปวดที่ไม่รุนแรง
    • ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือ นาพรอกเซน (Naproxen): เป็นกลุ่มยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดการอักเสบและอาการปวดฟันที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบของเนื้อเยื่อประสาท ควรระมัดระวังการใช้ในผู้ที่มีปัญหาโรคกระเพาะอาหารหรือโรคไต
  • ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics): ห้ามซื้อยาปฏิชีวนะมารับประทานเองเด็ดขาด ยาปฏิชีวนะจะใช้เฉพาะกรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชัดเจน (เช่น มีหนอง หรือบวม) และต้องได้รับการสั่งจ่ายจากทันตแพทย์เพื่อระบุชนิดยาที่เหมาะสม

5. อาการข้างเคียงที่อันตรายของปวดฟัน

หากอาการปวดฟันมาพร้อมกับสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบไปโรงพยาบาลหรือพบทันตแพทย์ฉุกเฉินทันที เพราะอาจหมายถึงการติดเชื้อที่กำลังลุกลาม:

  • ไข้สูงและหนาวสั่น: บ่งบอกถึงการติดเชื้อในระบบที่รุนแรง
  • ใบหน้าหรือคอบวมอย่างรวดเร็ว: การบวมที่แพร่กระจายไปถึงตา หรือลำคอ อาจเป็นสัญญาณของ เซลลูไลติส (Cellulitis) ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่ผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังที่อันตราย
  • กลืนลำบากหรือหายใจลำบาก: การบวมที่คอหรือใต้คาง (Floor of the Mouth) อาจกดทับทางเดินหายใจ
  • ปวดศีรษะรุนแรงและปวดร้าวที่หู: อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่อยู่ใกล้สมองหรือการอักเสบที่รุนแรงมาก

อาการปวดฟันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากฟันของคุณ การบรรเทาอาการด้วยตนเองเป็นเพียงการซื้อเวลา แต่การรักษาที่ต้นเหตุโดยทันตแพทย์เท่านั้นที่จะหยุดยั้งความเสียหายและป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปสู่การรักษาที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึงชีวิต

หมายเลขโทรศัพท์: 02-096-4435

LINE OA: @atudental

www.atudental.co.th