Articles

โครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUS พร้อมให้บริการตั้งแต่ 50 ท่านขึ้นไป

ในอดีตสวัสดิการองค์กรที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพที่ซับซ้อน มักถูกมองว่าเป็นเรื่องของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกำลังคนจำนวนมาก หรือมีงบประมาณมหาศาล แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงและความเท่าเทียม AT U DENTAL ได้พัฒนาโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUS เพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรทุกขนาด ไม่ว่าคุณจะเป็นองค์กรขนาดกลางหรือขนาดเล็กที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 50 ท่านขึ้นไป เราก็พร้อมที่จะนำคลินิกทันตกรรมมาตรฐานสูงไปให้บริการถึงที่ทำงานของคุณ โดยยังคงยึดมั่นในมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศ ทำไม 50 คน จึงเป็นจำนวนที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้น โครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่? การกำหนดจำนวนพนักงานขั้นต่ำที่ 50 ท่าน ไม่ใช่ข้อจำกัด แต่เป็นจุดที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้โครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย: ขั้นตอนง่ายๆ ในการเริ่มต้น โครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ สำหรับองค์กรของคุณ (แม้มีพนักงาน 50 ท่าน!) หากองค์กรของคุณมีพนักงานตั้งแต่ 50 ท่านขึ้นไป และสนใจที่จะนำโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUS ไปให้บริการถึงที่ทำงาน เพื่อยกระดับ สวัสดิการองค์กรนี่คือขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถเริ่มต้นได้ทันที: ขั้นตอนที่ 1: ติดต่อและปรึกษาเบื้องต้น (การวางแผนสวัสดิการองค์กรที่ยืดหยุ่น) เริ่มต้นด้วยการติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ AT U DENTAL เพื่อสอบถามข้อมูลและนัดหมายปรึกษาเบื้องต้น เราจะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนพนักงาน (ตั้งแต่ 50 ท่านขึ้นไป), ความต้องการเฉพาะ, และรูปแบบงบประมาณ เพื่อให้สามารถออกแบบโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่ตอบโจทย์สวัสดิการองค์กรของคุณได้อย่างลงตัวที่สุด ขั้นตอนที่ 2: การนำเสนอและจัดทำข้อเสนอ (การออกแบบโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่) หลังจากได้รับข้อมูล ทีมงาน AT U DENTAL จะจัดทำข้อเสนอ โครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ที่ครอบคลุมรายละเอียดบริการ, ค่าใช้จ่าย, การบริหารจัดการ และประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับ เพื่อให้ผู้บริหารและฝ่ายทรัพยากรบุคคลเข้าใจถึงความคุ้มค่าและมาตรฐานการให้บริการสูงสุด ขั้นตอนที่ 3: การวางแผนและการเตรียมงาน (ความพร้อมสำหรับสวัสดิการองค์กร) เมื่อข้อเสนอได้รับการอนุมัติ เราจะร่วมกับองค์กรกำหนดวันและเวลาที่เหมาะสม, แนะนำการเตรียมพื้นที่จอดรถสำหรับรถทันตกรรมเคลื่อนที่,และช่วยจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ภายใน เพื่อให้พนักงานทราบถึงโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ และวิธีการลงทะเบียน เพื่อให้ใช้สิทธิ์สวัสดิการองค์กรนี้อย่างเต็มที่ ขั้นตอนที่ 4: การให้บริการ (ประสบการณ์สวัสดิการองค์กรที่เหนือกว่า ด้วยมาตรฐานการให้บริการ) ในวันให้บริการโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUS จะเดินทางไปถึงองค์กรของคุณ ทีมทันตแพทย์ผู้มากประสบการณ์และผู้ช่วยทันตแพทย์จะพร้อมให้บริการด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย สะอาด และได้มาตรฐานทุกประการ พนักงานสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคม 900 บาทได้ทันทีโดยไม่ต้องสำรองจ่าย ทำให้สวัสดิการองค์กรนี้เข้าถึงได้ง่ายและลดภาระทางการเงิน ภายใต้ มาตรฐานการให้บริการ ที่เชื่อถือได้ ขั้นตอนที่ 5: การประเมินผลและการติดตาม (การพัฒนาสวัสดิการองค์กรอย่างต่อเนื่อง) หลังจากสิ้นสุดการให้บริการ ทีมงาน AT U DENTAL จะสรุปผลการดำเนินงานและรวบรวมความคิดเห็นเพื่อนำเสนอแก่องค์กรของคุณ เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่และสวัสดิการองค์กรให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต มากกว่าแค่บริการ แต่คือการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้สวัสดิการองค์กรด้วยมาตรฐานการให้บริการ การนำโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUS เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการองค์กรไม่ใช่เพียงแค่การให้บริการทันตกรรม แต่คือการลงทุนในคุณภาพชีวิตของบุคลากร ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว พร้อมด้วยความมั่นใจในมาตรฐานการให้บริการของเรา: AT U DENTAL: พร้อมเป็นพันธมิตรโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ที่มาพร้อมมาตรฐานการให้บริการสำหรับองค์กรของคุณ AT U DENTAL มีความพร้อมทั้งด้านรถทันตกรรมที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน SHA และผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุขทีมทันตแพทย์ผู้มากประสบการณ์ รวมถึงระบบการบริหารจัดการที่ครบวงจร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่จะเกิดขึ้นในองค์กรของคุณ จะเป็นไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และสร้างความประทับใจให้กับพนักงานทุกคน โดยยึดมั่นในมาตรฐานการให้บริการสูงสุดเสมอ ไม่ว่าองค์กรของคุณจะมีขนาดเท่าใด หากมีพนักงานตั้งแต่ 50 ท่านขึ้นไป และมีความตั้งใจที่จะมอบสวัสดิการองค์กรที่ดีที่สุด AT U DENTAL พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสุขภาพที่ดีให้กับพนักงานของคุณ ด้วยโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่เข้าถึงได้จริง และมาพร้อมมาตรฐานการให้บริการที่คุณวางใจได้ “ปลดล็อกศักยภาพของพนักงานคุณด้วยรอยยิ้มที่สดใส เริ่มต้นสวัสดิการองค์กรที่เหนือกว่ากับ AT U DENTAL วันนี้!” หมายเลขโทรศัพท์: 02-096-4435 LINE OA: @atudental www.atudental.co.th
โพสต์เมื่อ 19 กันยายน 2568

ยกระดับสวัสดิการองค์กร: คู่มือเริ่มต้นเพื่อการเข้าถึงโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUS

ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การสร้างสรรค์สวัสดิการองค์กรที่โดดเด่นและมีคุณค่า คือกุญแจสำคัญในการดึงดูด รักษา และสร้างความผูกพันกับบุคลากร การนำโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการ ถือเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพช่องปากที่พนักงานส่วนใหญ่มักละเลย AT U DENTAL ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ พร้อมเป็นที่ปรึกษาและผู้ให้บริการโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่จะช่วยให้องค์กรของคุณก้าวสู่ความเป็นเลิศในการดูแลพนักงานได้อย่างง่ายดายและเป็นระบบ หากองค์กรของคุณกำลังมองหาวิธีการยกระดับสวัสดิการองค์กรและสนใจที่จะนำโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUS ไปให้บริการถึงที่ทำงาน นี่คือขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถเริ่มต้นได้ทันที: ขั้นตอนที่ 1: ติดต่อและปรึกษาเบื้องต้น (การวางแผนสวัสดิการองค์กร) การเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือการติดต่อเข้ามาเพื่อปรึกษาข้อมูลเบื้องต้นกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ AT U DENTAL คุณสามารถเลือกช่องทางที่สะดวกที่สุดได้แก่: ในการปรึกษาเบื้องต้นนี้ ทีมงานของเราจะสอบถามข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับองค์กรของคุณ เช่น: ขั้นตอนที่ 2: การนำเสนอและจัดทำข้อเสนอ (การออกแบบโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่) หลังจากได้รับข้อมูลเบื้องต้น ทีมงาน AT U DENTAL จะจัดทำข้อเสนอโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณขององค์กรคุณ ข้อเสนอจะครอบคลุมรายละเอียดต่างๆ ได้แก่: ขั้นตอนนี้จะมีการนำเสนอข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้บริหารและฝ่ายทรัพยากรบุคคลขององค์กรคุณเข้าใจถึงความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุดที่จะได้รับจากโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ของเรา ขั้นตอนที่ 3: การวางแผนและการเตรียมงาน (ความพร้อมสำหรับสวัสดิการองค์กร) เมื่อข้อเสนอได้รับการอนุมัติ เราจะเข้าสู่ขั้นตอนการวางแผนและการเตรียมงานอย่างละเอียด เพื่อให้โครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด: ขั้นตอนที่ 4: การให้บริการ (ประสบการณ์สวัสดิการองค์กรที่เหนือกว่า) ในวันให้บริการ โครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUS จะเดินทางไปถึงองค์กรของคุณตามกำหนดเวลา ทีมทันตแพทย์และผู้ช่วยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพร้อมให้บริการด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด และได้มาตรฐานทุกประการ: ขั้นตอนที่ 5: การประเมินผลและการติดตาม (การพัฒนาสวัสดิการองค์กรอย่างต่อเนื่อง) หลังจากสิ้นสุดการให้บริการ ทีมงาน AT U DENTAL จะมีการสรุปผลการดำเนินงานและรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อนำเสนอแก่องค์กรของคุณ รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากพนักงานและฝ่ายทรัพยากรบุคคล เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่และสวัสดิการองค์กรให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต ทำไมต้องเลือก โครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUS? การเลือกใช้โครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUSคือการลงทุนที่ชาญฉลาดในทรัพยากรบุคคล ที่จะนำมาซึ่งสุขภาพที่ดี ประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น และสวัสดิการองค์กรที่เป็นเลิศสำหรับองค์กรของคุณ
โพสต์เมื่อ 18 กันยายน 2568

มาตรฐานการให้บริการและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ AT U DENTAL BUS

ในโลกธุรกิจที่ความคล่องตัวและประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญของการทำงาน AT U DENTAL ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เพื่อตอบโจทย์องค์กรและพนักงาน ด้วยบริการ AT U DENTAL BUS หรือรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ซึ่งไม่ใช่แค่การนำคลินิกมาไว้บนรถ แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่ให้เทียบเท่ากับคลินิกชั้นนำ มาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยระดับคลินิก เราให้ความสำคัญสูงสุดกับมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัย โดย AT U DENTAL BUS ได้รับการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านการรับรองมาตรฐาน SHA (Amazing Thailand Safety and Health Administration) และได้รับ การตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุข อย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนการให้บริการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางการแพทย์และความปลอดภัยระดับสูงสุด นอกจากนี้ วัสดุและเครื่องมือที่ใช้ในการรักษาได้รับการดูแลและฆ่าเชื้อตามมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันการติดเชื้อข้ามคน และรับประกันว่าผู้ใช้บริการจะได้รับการดูแลในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยอย่างแท้จริง คุณสมบัติที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ AT U DENTAL BUS AT U DENTAL BUS ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด จึงมีคุณสมบัติที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ดังนี้: การสร้าง AT U DENTAL BUS คือการนำนวัตกรรมมาผสานกับการให้บริการด้วยหัวใจ เพื่อให้สวัสดิการทำฟันที่เข้าถึงยาก กลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายสำหรับองค์กรและพนักงานทุกคน
โพสต์เมื่อ 29 สิงหาคม 2568

สิทธิทำฟันประกันสังคม: ทางเลือกใหม่สำหรับองค์กร ด้วยบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ถึงที่ทำงาน

ในยุคที่ตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมอบสวัสดิการที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของพนักงานไม่ใช่แค่เรื่องของการดึงดูดบุคลากร แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอีกด้วยสิทธิทำฟันประกันสังคมถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการที่รัฐจัดสรรให้ แต่ในทางปฏิบัติแล้วกลับพบว่าพนักงานหลายคนเลือกที่จะไม่ใช้สิทธิ์ที่ตนเองมีอยู่ และบทความนี้จะพาองค์กรไปสำรวจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และมีโซลูชันใดที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ อุปสรรคที่ทำให้พนักงานไม่ใช้สิทธิทำฟันประกันสังคม ปัญหาหลักที่ทำให้สวัสดิการนี้ถูกมองข้ามมักเกิดจากความไม่สะดวกและข้อจำกัดต่างๆ: ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้พนักงานละเลยการดูแลสุขภาพช่องปาก ทำให้ปัญหาสุขภาพเล็กๆ เช่น ฟันผุหรือเหงือกอักเสบ ลุกลามจนกลายเป็นปัญหาที่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทั้งตัวพนักงานและองค์กรในระยะยาว AT U DENTAL BUS: คลินิกทันตกรรมเคลื่อนที่ที่เปลี่ยนอุปสรรคเป็นโอกาส แนวคิดของ รถทันตกรรมเคลื่อนที่ (Mobile Dental Unit) คือการนำบริการทันตกรรมครบวงจรไปให้บริการถึงที่ทำงานของพนักงาน ทำให้สวัสดิการทำฟันประกันสังคมเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น AT U DENTAL BUS เป็นมากกว่าแค่รถยนต์ แต่คือคลินิกทันตกรรมบนล้อที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยมีการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยครบถ้วนเทียบเท่าคลินิกทั่วไป ทำให้การให้บริการมีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ การให้บริการโดยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคลินิกในเครือของเรา ซึ่งมีประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพช่องปากให้กับผู้ประกันตนมาอย่างยาวนาน ประกอบกับเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ทำให้พนักงานมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงสุด การที่ทันตแพทย์และอุปกรณ์ที่ทันสมัยเดินทางไปหาพนักงานโดยตรง จะช่วยลดอุปสรรคสำคัญที่กล่าวมาข้างต้น และเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับองค์กร ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจากการส่งเสริมสวัสดิการทันตกรรมถึงที่ การส่งเสริมให้พนักงานใช้สิทธิ์ทำฟันประกันสังคมด้วยแนวทางใหม่นี้ไม่ได้เป็นแค่การอำนวยความสะดวก แต่ยังเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดสำหรับองค์กร: การนำบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ที่ได้มาตรฐานมาให้บริการถึงที่ทำงาน จึงเป็นแนวคิดที่เปลี่ยนสิทธิประกันสังคมให้กลายเป็นสวัสดิการที่เหนือกว่าและเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยสร้างความผูกพันและเพิ่มความสุขในการทำงานให้กับพนักงานทุกคนในองค์กรของคุณ สนใจบริการ AT U DENTAL BUS? ติดต่อเราเพื่อปรึกษาและวางแผนการให้บริการสำหรับองค์กรของคุณได้เลย หมายเลขโทรศัพท์: 02-096-4435 LINE OA: @atudental
โพสต์เมื่อ 27 สิงหาคม 2568

10 เหตุผลที่การดูแลสุขภาพช่องปากคือสวัสดิการพนักงานที่คุ้มค่าที่สุดขององค์กร

“AT U DENTAL เผย 10 เหตุผลที่การดูแลสุขภาพช่องปากพนักงานด้วยบริการทำฟันถึงที่คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดขององค์กรยุคใหม่ ช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความผูกพันที่ยั่งยืน ศึกษาแนวทางปฏิบัติจากงานวิจัยและสถิติเพื่อยกระดับสวัสดิการพนักงานของคุณ” ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันเพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่ซับซ้อนกว่าเดิม จากที่เคยเป็นการต่อสู้ด้วยค่าตอบแทนที่สูงเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันนี้แนวคิดได้เปลี่ยนไปสู่การให้ความสำคัญกับปัจจัยที่ไม่ใช่ตัวเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวัสดิการพนักงานที่สะท้อนถึงความห่วงใยและคุณภาพชีวิตของคนทำงาน การมอบสวัสดิการพนักงานที่ดีจึงไม่ได้เป็นแค่ค่าใช้จ่าย แต่คือการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดขององค์กร นั่นก็คือ “พนักงาน” AT U DENTAL ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมทันตกรรมเคลื่อนที่ เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างลึกซึ้ง และได้พัฒนา AT U DENTAL BUS หรือรถทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อเป็นโซลูชันที่ทรงประสิทธิภาพในการช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถยกระดับสวัสดิการพนักงานด้านทันตกรรมได้อย่างไร้รอยต่อ บทความนี้จะนำเสนอ 10 เหตุผลหลักที่ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในการดูแลสุขภาพช่องปากของพนักงานถึงที่ทำงาน ไม่ใช่แค่เรื่องของความห่วงใย แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมขององค์กรในระยะยาว 1. ยกระดับ สวัสดิการพนักงาน ให้เหนือกว่าคู่แข่ง: สร้างความแตกต่างที่ดึงดูดใจ ในปัจจุบัน องค์กรส่วนใหญ่ยังคงมีสวัสดิการพนักงานด้านทันตกรรมในรูปแบบเดิม คือการมอบสิทธิ์ประกันสังคมซึ่งมีข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่ายและขั้นตอนการเบิกจ่าย แต่ด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่เข้าถึงบริษัทได้โดยตรง องค์กรจะสามารถนำเสนอสวัสดิการพนักงานที่แตกต่างและโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดในสายตาของผู้สมัครงานและพนักงานปัจจุบัน การให้บริการถึงที่ทำงานช่วยลดภาระด้านเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของพนักงาน ทำให้เกิดภาพลักษณ์ขององค์กรที่เป็นผู้นำและพร้อมลงทุนเพื่อบุคลากรอย่างแท้จริง จากงานวิจัยของ Mahidol University และ Srinakharinwirot University พบว่าสวัสดิการพนักงานเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญต่อความผูกพันองค์กร ยิ่งสวัสดิการพนักงานมีความพิเศษและตอบโจทย์ชีวิตพนักงานมากเท่าไร ความผูกพันที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น การมีสวัสดิการพนักงานที่โดดเด่นยังช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการสรรหาบุคลากร ทำให้องค์กรสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ลดการลาป่วยและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: สุขภาพกายดีส่งผลต่อประสิทธิภาพงาน ปัญหาสุขภาพช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดฟัน เหงือกอักเสบ หรืออาการเสียวฟัน ไม่เพียงแต่สร้างความไม่สบายกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อสมาธิและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานด้วย จากข้อมูลของกรมอนามัย พบว่าปัญหาฟันผุและโรคเหงือกเป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยทำงาน การที่พนักงานต้องลาหยุดงานเพื่อไปพบทันตแพทย์หรือต้องทำงานในขณะที่มีอาการปวดฟัน จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอย่างมาก (Presenteeism) การนำ AT U DENTAL BUS เข้าไปให้บริการถึงที่ทำงานช่วยให้พนักงานสามารถเข้ารับการรักษาเบื้องต้นได้ทันท่วงที ลดโอกาสในการลาป่วยหรือทำงานแบบไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีต่อผลผลิตโดยรวมขององค์กรในที่สุด และนับเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการพนักงานที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด จากรายงานวิจัยหลายฉบับระบุว่า สุขภาพกายและสุขภาพใจของพนักงานส่งผลโดยตรงต่อ Productivity ขององค์กร และการลงทุนในสวัสดิการพนักงานด้านสุขภาพจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว 3. ประหยัดค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็น: ลดภาระให้องค์กรอย่างเป็นรูปธรรม แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้จ่ายค่าใช้จ่ายโดยตรงสำหรับบริการทำฟัน แต่การที่พนักงานต้องลาหยุดเพื่อไปพบทันตแพทย์ย่อมก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงมหาศาล ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่หลายองค์กรอาจมองข้ามไป เช่น ค่าจ้างที่ยังต้องจ่ายในขณะที่พนักงานไม่ได้ทำงาน หรือการหยุดชะงักของกระบวนการทำงานที่ต้องใช้พนักงานคนนั้น และอาจรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานชั่วคราวมาทำงานแทน การให้บริการทำฟันถึงที่ช่วยขจัดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ AT U DENTAL BUS ยังสามารถบริหารจัดการสิทธิ์ประกันสังคมสำหรับพนักงานได้อย่างราบรื่น ทำให้พนักงานไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน และองค์กรไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการจัดกิจกรรมนี้เลย เสมือนเป็นการยกระดับสวัสดิการพนักงานให้กับพนักงานโดยไม่กระทบงบประมาณของบริษัท ซึ่งนับเป็นการจัดการสวัสดิการพนักงานที่ชาญฉลาดและช่วยลดต้นทุนแฝงให้กับองค์กรได้อย่างมหาศาล 4. สร้างภาพลักษณ์นายจ้างที่ใส่ใจ: ดึงดูดและรักษาบุคลากรระดับท็อป ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสาร ภาพลักษณ์องค์กร (Employer Branding) ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อบุคลากรคือสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาล การนำรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการถึงที่ทำงาน ไม่ใช่แค่การมอบสวัสดิการพนักงานแต่เป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยอย่างเป็นรูปธรรมที่พนักงานสามารถบอกต่อและสร้างเรื่องราวดีๆ ให้กับองค์กรได้ การที่บริษัทลงทุนในสุขภาพช่องปากพนักงานอย่างจริงจัง ทำให้พนักงานรู้สึกภูมิใจและอยากเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนั้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงในฐานะ “นายจ้างที่ใส่ใจ” ได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน เพราะสวัสดิการพนักงานที่ดีคือภาพสะท้อนของวัฒนธรรมองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยให้บริษัทกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ทำให้สามารถดึงดูดผู้สมัครงานที่มีคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดาย 5. ความผูกพันที่ยั่งยืน: “องค์กรรักเรา เราเลยรักองค์กร” การสร้างความผูกพันองค์กรไม่ใช่แค่การขึ้นเงินเดือนหรือการจัดงานเลี้ยง แต่คือการสร้างความรู้สึกของการเป็น “บ้าน” ที่ดูแลกันและกัน AT U DENTAL BUS เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบในการสื่อสารอุดมการณ์นี้ เมื่อพนักงานเห็นว่าองค์กรลงทุนในสวัสดิการพนักงานที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของพวกเขาโดยตรงโดยไม่หวังผลตอบแทนอย่างเป็นตัวเงิน ความรู้สึกขอบคุณและความภักดีต่อองค์กรจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า “เมื่อองค์กรรักเรา เราจึงรักองค์กร” ทำให้พนักงานไม่คิดอยากลาออกง่ายๆ และพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อความสำเร็จร่วมกันในระยะยาว เพราะสวัสดิการพนักงานที่ดีสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญขององค์กรอย่างแท้จริง 6. เพิ่มอัตราการรักษาบุคลากร: การลงทุนเพื่อลด Employee Turnover การลาออกของพนักงานหนึ่งคนย่อมก่อให้เกิดต้นทุนมหาศาลสำหรับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการสรรหาและฝึกอบรมพนักงานใหม่ รวมถึงความรู้และประสบการณ์ที่ขาดหายไป การมอบสวัสดิการพนักงานด้านสุขภาพที่โดดเด่นและเข้าถึงง่าย เช่น บริการทำฟันถึงที่ ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและกำลังใจให้กับพนักงาน ส่งผลให้อัตราการลาออกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรได้นานๆ คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการสรรหาพนักงานใหม่ในระยะยาว และสวัสดิการพนักงานที่ตอบโจทย์คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ จากสถิติพบว่าอัตราการลาออกที่ลดลงเพียง 1% สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการสรรหาและฝึกอบรมบุคลากรได้เป็นจำนวนเงินมหาศาลต่อปี การลงทุนเพียงเล็กน้อยในสวัสดิการพนักงานที่มีคุณภาพจึงเป็นการป้องกันการสูญเสียบุคลากรที่มีค่าอย่างยั่งยืน 7. เข้าถึงบริการง่าย ไม่ต้องเดินทาง: ประหยัดเวลาและพลังงานของพนักงาน ปัญหาสุขภาพช่องปากหลายครั้งมักถูกมองข้ามเพราะความยุ่งยากในการไปพบทันตแพทย์ การจราจรที่ติดขัด การหาที่จอดรถ และการลางานล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญ การนำรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการถึงที่ทำงานทำให้พนักงานไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ พนักงานสามารถเข้ารับบริการในช่วงพักกลางวันหรือเวลาที่สะดวกได้อย่างง่ายดาย ทำให้ปัญหาสุขภาพช่องปากได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับสุขภาพองค์กรโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นหนึ่งในข้อดีของสวัสดิการพนักงานที่เข้าถึงง่าย นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมให้พนักงานมีวินัยในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เพราะการเข้ารับบริการทำฟันเป็นเรื่องที่ง่ายและไม่ยุ่งยากอีกต่อไป 8. ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพระยะยาว: การป้องกันดีกว่าการรักษา ปัญหาสุขภาพช่องปากสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมได้ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม จากข้อมูลงานวิจัยมากมายพบว่าปัญหาเล็กๆ อย่างฟันผุหรือเหงือกอักเสบอาจลุกลามจนกลายเป็นโรคที่รุนแรง เช่น โรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโรคเบาหวานและโรคหัวใจ การที่องค์กรส่งเสริมให้พนักงานเข้ารับการตรวจสุขภาพและขูดหินปูนเป็นประจำ ถือเป็นการลงทุนเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงที่พนักงานจะเจ็บป่วยด้วยโรคซับซ้อนและต้องใช้ค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นในอนาคต และเป็นอีกมิติของสวัสดิการพนักงานที่คุ้มค่า การดูแลเชิงป้องกันยังช่วยลดโอกาสที่พนักงานจะต้องลาหยุดงานในอนาคตเพื่อเข้ารับการรักษาที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน
โพสต์เมื่อ 18 สิงหาคม 2568

พลิกโฉมสวัสดิการพนักงาน: AT U DENTAL BUS ยกระดับคุณภาพชีวิตชาวอิเลคโทรลักซ์ โดยที่บริษัทไม่เสียค่าใช้จ่าย

สวัสดิการที่ ‘ตอบโจทย์’ คือหัวใจของการทำงานในยุคใหม่ ! ในโลกธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งขัน บุคลากรคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด การสร้างแรงจูงใจและการดูแลพนักงานจึงไม่ใช่แค่เรื่องของผลตอบแทน แต่ยังรวมถึงการจัดหาสวัสดิการที่เข้าถึงง่ายและมีคุณค่าอย่างแท้จริง ที่ AT U DENTAL เราเข้าใจถึงความต้องการนี้เป็นอย่างดี จึงได้พัฒนานวัตกรรม “AT U DENTAL BUS” รถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่ครบครัน เพื่อเป็นโซลูชันที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถยกระดับสวัสดิการด้านสุขภาพช่องปากได้อย่างสะดวกสบายและคุ้มค่า ล่าสุด AT U DENTAL ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการมอบสวัสดิการสุดพิเศษนี้ให้กับพนักงานของ บริษัท อิเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด (โรงงานระยอง) ซึ่งถือเป็นโรงงานขนาดใหญ่และเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า การเข้าถึงการบริการทันตกรรมที่ดีและไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย จึงเป็นการส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น และพร้อมทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ AT U DENTAL BUS: สวัสดิการที่ “ได้” มากกว่าที่คิด การจัดกิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำรถทันตกรรมไปจอดให้บริการ แต่คือการออกแบบโมเดลสวัสดิการที่สร้างประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีจุดเด่นคือการให้บริการในรูปแบบที่พนักงานสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมโดยไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน และบริษัทไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการจัดกิจกรรมนี้ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เรียกว่า “Win-Win-Win Situation” หรือ “มีแต่ได้กับได้” อย่างแท้จริง ยกระดับสวัสดิการด้วยความใส่ใจ คือการสร้าง “The Endless Confidence” เราขอขอบคุณ บริษัท อิเลคโทรลักซ์ ที่ให้ความไว้วางใจในบริการของเรา และขอเชิญชวนองค์กรอื่นๆ ที่มองหาวิธีเพิ่มสวัสดิการด้านสุขภาพช่องปากให้กับพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่บริษัทไม่เสียค่าใช้จ่าย มาปรึกษาและวางแผนร่วมกัน เพื่อมอบ “ความมั่นใจที่ไร้ขีดจำกัด (The Endless Confidence)” ให้กับทีมงานของคุณไปพร้อมๆ กัน 📌 หากองค์กรของคุณสนใจยกระดับสวัสดิการสุขภาพช่องปากให้พนักงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อเราได้ที่ LINE OA: @atudental 🚐 ร่วมกันสร้างรอยยิ้มที่แข็งแกร่งให้กับองค์กร กับ AT U DENTAL BUS
โพสต์เมื่อ 10 สิงหาคม 2568

 7 เหตุผลที่องค์กรเลือกใช้รถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U DENTAL

ในโลกของการทำงานยุคใหม่ สุขภาพของพนักงานไม่เพียงแต่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของบุคลากร แต่ยังสะท้อนถึงประสิทธิภาพและภาพลักษณ์ขององค์กร การจัดสวัสดิการด้านทันตกรรมจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่องค์กรยุคใหม่กำลังให้ความสำคัญ AT U DENTAL BUS พร้อมตอบโจทย์นี้ ด้วยบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่ออกแบบมาเพื่อองค์กรทุกประเภท ครอบคลุมการดูแลสุขภาพฟันอย่างครบวงจร และนี่คือ 7 จุดเด่นสำคัญ ที่ทำให้เราเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของหลายองค์กรทั่วประเทศ ✅ 1. ได้มาตรฐาน SHA เพื่อความมั่นใจสูงสุด รถทันตกรรมของ AT U DENTAL ผ่านการรับรองมาตรฐาน Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) ซึ่งกำกับดูแลโดยกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจว่าผู้รับบริการจะได้รับการดูแลในสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรการด้านสุขอนามัยที่เข้มงวดที่สุด ความสะอาดและความปลอดภัย คือหัวใจสำคัญที่เรายึดถือ ทำให้บุคลากรในองค์กรสามารถเข้ารับบริการได้อย่างสบายใจ และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริหารว่าองค์กรได้มอบสวัสดิการที่ปลอดภัยให้แก่พนักงาน ✅ 2. นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลที่ล้ำสมัย รถทันตกรรมของเราไม่ได้เป็นเพียงรถให้บริการทั่วไป แต่ยังติดตั้ง อุปกรณ์ป้องกันไวรัส Forbes ที่ใช้เทคโนโลยี Photon Mediated Electron Emission (PMEE) เพื่อทำลายโปรตีนหนามของไวรัส ป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อโรคในอากาศ นอกจากนี้ เรายังมี เครื่องฟอกอากาศบริสุทธิ์ ที่ตรวจจับและกรองอากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อความมั่นใจว่าบรรยากาศภายในรถจะปลอดภัยตลอดเวลาการให้บริการ ✅ 3. ระบบจองคิวนัดหมาย LINE OA ที่ทันสมัย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ HR และพนักงาน เรามีระบบจองคิวออนไลน์ผ่าน LINE Official Account ที่ง่ายต่อการใช้งาน พนักงานสามารถเลือกวันและเวลาที่สะดวก ลดการรอคิวหน้างาน และทำให้การจัดการภายในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่รบกวนเวลาทำงานหลักของ HR ✅ 4. Dental Passport สำหรับการเก็บข้อมูลสุขภาพฟันอย่างเป็นระบบ AT U DENTAL มี Dental Passport เพื่อบันทึกข้อมูลการรักษาและบริการทันตกรรมของผู้ใช้แต่ละราย ทำให้ HR สามารถติดตามผลสุขภาพช่องปากของพนักงานได้ง่ายขึ้น และพนักงานเองก็สามารถดูประวัติการรักษาของตนเองได้สะดวก ✅ 5. เครือข่ายคลินิกพาร์ตเนอร์ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ เรามีคลินิกพันธมิตรมากกว่า 25 แห่ง ครอบคลุมหลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรองรับการติดตามการรักษาต่อเนื่องให้กับพนักงาน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใด การรับบริการเพิ่มเติมนอกหน่วยรถจึงสะดวกและไร้รอยต่อ ✅ 6. หัตถการครบครัน ใช้สิทธิประกันสังคมได้เต็มที่ เรามีบริการทันตกรรมที่ครอบคลุมทั้ง ตรวจสุขภาพฟัน, ขูดหินปูน, อุดฟัน, ถอนฟัน และรองรับการใช้สิทธิประกันสังคมของพนักงานเพื่อช่วยองค์กรควบคุมต้นทุนด้านสวัสดิการ ลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ✅ 7. ทีมงานมืออาชีพ ใส่ใจในทุกขั้นตอน ทีมทันตแพทย์และผู้ช่วยของเราผ่านการอบรมตามมาตรฐานการดูแลด้านทันตกรรม พร้อมให้คำปรึกษาและบริการอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้พนักงานของคุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดทุกครั้งที่เข้ารับบริการ 🌱 ยกระดับสวัสดิการขององค์กรคุณไปอีกขั้น AT U DENTAL BUS ไม่เพียงแค่มอบบริการทันตกรรม แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการดูแลพนักงาน ช่วยสร้างความผูกพันในองค์กร และต่อยอดสู่ CSR ที่สร้างคุณค่าต่อสังคม 📞 ให้เราดูแลรอยยิ้มของพนักงานในองค์กรคุณLINE OA: @atudental | 🌐 www.atudental.co.th | โทร. 02-096-4435
โพสต์เมื่อ 6 กรกฎาคม 2568

กลยุทธ์จัดสวัสดิการเชิงรุก: บริการด้านทันตกรรมที่ช่วยลดต้นทุนองค์กรโดยไม่เพิ่มภาระ HR

ในยุคที่การดูแลพนักงานไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือในการรักษาแรงงานเท่านั้น แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์องค์กรที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ และความได้เปรียบในการแข่งขัน ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) จำเป็นต้องมองหาวิธีใหม่ ๆ ที่จะตอบสนองความต้องการของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมควบคุมงบประมาณอย่างเหมาะสม หนึ่งในสวัสดิการที่มักถูกมองข้ามแต่มีผลกระทบในระดับต้นทุนที่แท้จริงคือ “สุขภาพช่องปาก” สุขภาพช่องปากส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานโดยตรง การละเลยปัญหาเล็ก ๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรืออาการปวดฟัน สามารถกลายเป็นสาเหตุของการลาป่วย และนำไปสู่ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่จำเป็น ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ถูกวางแผนไว้ในงบสวัสดิการล่วงหน้า รถทันตกรรมเคลื่อนที่: ทางเลือกใหม่ขององค์กรยุคใหม่ เพื่อตอบโจทย์แนวคิด “ป้องกันดีกว่ารักษา” หลายองค์กรจึงเริ่มหันมาใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่เข้ามาให้บริการภายในสถานประกอบการโดยตรง โดยเฉพาะบริการจาก AT U DENTAL ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับองค์กรทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน บริษัท หรือหน่วยงานราชการ บริการนี้ไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพนักงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการจัดการเชิงระบบที่สามารถวัดผลได้ในระดับองค์กร ประโยชน์สำหรับฝ่าย HR และองค์กร รูปแบบการให้บริการที่ยืดหยุ่น องค์กรสามารถเลือกรูปแบบบริการตามความเหมาะสม เช่น: การเตรียมตัวของ HR AT U DENTAL มีระบบสนับสนุน HR อย่างครบวงจร เช่น: บทสรุป บริการด้านทันตกรรมเคลื่อนที่ ไม่ใช่เพียงเครื่องมือในการดูแลพนักงาน แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างองค์กรที่ยั่งยืน ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ ทัศนคติ และความผูกพันของพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อองค์กรต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านต้นทุนและความคาดหวังจากพนักงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง AT U DENTAL พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่สนับสนุนงาน HR อย่างเป็นระบบ ด้วยบริการที่ครอบคลุม วัดผลได้จริง และตอบโจทย์ทั้งในระดับปฏิบัติการและเชิงกลยุทธ์ สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการใบเสนอราคา ติดต่อ:โทร: 02-096-4435LINE OA: @atudentalเว็บไซต์: www.atudental.co.th
โพสต์เมื่อ 5 กรกฎาคม 2568

การสร้างแรงจูงใจด้วยสวัสดิการ ช่วยสร้างบรรยากาศทำงานที่ดีได้ไวกว่า Incentive ได้อย่างไร?

ปัจจุบัน เหล่าผู้บริหารระดับสูงหรือแม้กระทั่ง HR หันมาให้ความสำคัญกับ Incentive กันอย่างมาก เนื่องจากต้องการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานและเพิ่มความน่าดึงดูดใจในการทำงานในองค์กร แน่นอนว่าการหันมาให้ความสำคัญกับสวัสดิการ Incentive เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจในองค์กรจะมีความสำคัญ แต่ในขณะเดียวกันความสำคัญของการจัดการสวัสดิการพื้นฐานขององค์กรอาจลดน้อยลง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การให้ความสำคัญกับสวัสดิการพื้นฐานเหล่านี้ ถือเป็นก้าวแรกในการทำให้เห็นถึงความใส่ใจ จนสามารถสร้างความประทับใจ ความภักดี และแรงจูงใจให้พนักงานต้องการทำงานต่อไปได้ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความสำคัญของการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในองค์กร ผ่านการมอบสวัสดิการขั้นพื้นฐานอย่างครบถ้วน ก่อนที่จะมองเลยไปถึง Incentive ความสำคัญของการสร้างแรงจูงใจพนักงานในยุคปัจจุบัน ในโลกของการทำงานที่หมุนเร็วและแข่งขันสูงในปัจจุบัน องค์กรที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับ การสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน มากกว่าที่เคย เพราะพนักงานคือ “หัวใจขององค์กร” ที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์และเป้าหมายให้เป็นจริงได้ การที่พนักงานรู้สึกมีกำลังใจในการทำงาน เป็นผลลัพธ์ของการดูแลจากองค์กรอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของสภาพแวดล้อม แรงสนับสนุน หรือวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นมิตร การทำให้พนักงานรู้สึกได้รับความสำคัญจากองค์กร จะส่งผลให้เกิดแรงจูงใจสำคัญ ทีมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนการทำงาน ดังนี้ ในทางกลับกัน หากแรงจูงใจของพนักงานลดลง จะเห็นได้ชัดว่าคุณภาพของงานและบรรยากาศในองค์กรอาจมีความเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานจึงไม่ใช่เพียงแค่การแจกโบนัส หรือตั้ง KPI แต่ต้องอาศัยการให้ความสำคัญกับความต้องการของพนักงาน เพื่อนำมาใช้ร่วมกับการมอบสวัสดิการได้อย่างตรงจุด ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการสร้างแรงจูงใจพนักงาน นอกเหนือจากเงินเดือน การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในการทำงาน ทั้งผู้บริหารระดับสูงและ HR จำเป็นต้องคำนึงให้ครอบคลุมหลายด้าน เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าได้รับการดูแลทั้งทางกายและใจ โดยปัจจัยสำคัญที่ควรใส่ใจเพิ่มเติมนอกเหนือจากเรื่องเงินเดือน มีดังนี้ การสร้างสวัสดิการพื้นฐานให้แข็งแกร่ง ก่อนคิดเรื่อง Incentive ก่อนที่องค์กรจะมองไปถึง Incentive สิ่งสำคัญที่ควรทำคือ การย้อนกลับมามองว่า “สวัสดิการพื้นฐาน” ที่ให้กับพนักงานมีความครบถ้วนและเข้าถึงได้จริงหรือไม่ เพราะสวัสดิการพื้นฐานเป็นหนึ่งในปัจจัยในการสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน และยังเป็นสิ่งที่พนักงานคาดหวังเป็นลำดับต้น ๆ ในการเลือกทำงานกับองค์กร โดยองค์ประกอบของสวัสดิการพื้นฐานที่ควรให้ความสำคัญ คือ แนวทางการสร้างสวัสดิการให้แข็งแกร่ง อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สวัสดิการในองค์กรมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ต่อผู้ที่ได้รับอย่างตรงจุด HR ควรมีการออกแบบสวัสดิการเหล่านี้อย่างมีกลยุทธ์ โดยมีแนวทางดังนี้ บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental หนึ่งในสวัสดิการด้านสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่องค์กรยุคใหม่ คือ บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ซึ่ง AT U Dental ได้ออกแบบขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งฝ่าย HR และพนักงาน ด้วยจุดเด่นที่ตอบโจทย์ชีวิตของเหล่าพนักงานที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก โดยข้อดีของบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ได้แก่ สรุป การสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าในยุคปัจจุบัน การดูแลพนักงานอย่างแท้จริงไม่ได้จำกัดแค่เรื่องการเพิ่มเงินเดือนหรือให้โบนัสเท่านั้น แต่ต้องมองให้กว้างมากขึ้น ทั้งการออกแบบสวัสดิการพื้นฐานที่แข็งแกร่ง การสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี รวมถึงการพัฒนาความสามารถของพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานที่ดีจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน และทำให้พนักงานรู้สึกถึงคุณค่าของตนเองในองค์กร องค์กรจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทั้งสวัสดิการพื้นฐานอย่าง วันหยุด ประกันสังคม ประกันสุขภาพ Incentive และบริการเสริมอื่น ๆ เช่น รถทันตกรรมเคลื่อนที่ รวมไปถึงการรับฟังความเห็นของพนักงานอย่างเปิดกว้าง เพื่อส่งมอบสวัสดิการที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง สำหรับองค์กรที่สนใจบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental สามารถติดต่อเพื่อใช้บริการได้แล้ววันนี้ พวกเราพร้อมให้บริการทางทันตกรรมอย่างครบครัน และสะดวกสบาย
โพสต์เมื่อ 24 เมษายน 2568

แนะนำแนวทางสร้างสวัสดิการบริษัทที่ดี ให้แก่พนักงานในองค์กร

ความจำเป็นของการมีสวัสดิการพนักงานที่ดี สวัสดิการพนักงานเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและมีประสิทธิภาพภายในองค์กร ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความสุขของพนักงานเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อผลลัพธ์การทำงานโดยรวมขององค์กรอีกด้วย การมอบสวัสดิการที่ดีช่วยให้พนักงานรู้สึกมีค่าและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ซึ่งส่งผลให้พนักงานมีความพึงพอใจในงานและมีความภักดีต่อบริษัทมากขึ้น นอกจากนี้การสร้างสวัสดิการพนักงานบริษัทที่ดียังสามารถช่วยให้องค์กรมีความได้เปรียบในการดึงดูดและรักษาคนทำงานที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรได้ในระยะยาว การจัดการสวัสดิการพนักงานเป็นหนึ่งในหน้าที่หลักของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) ที่ต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้านทั้งในเชิงการเงินและความต้องการของพนักงาน เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของทั้งพนักงานและองค์กร การให้สวัสดิการที่เหมาะสมไม่เพียงแค่ช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจให้แก่พนักงาน แต่ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและบริษัทได้ ดังนั้นการพิจารณาสวัสดิการพนักงานในองค์กรนั้นต้องคำนึงถึงความต้องการที่หลากหลายของพนักงาน ทั้งในด้านการดูแลสุขภาพ การพัฒนาทักษะ และความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เพื่อความพึงพอใจและสามารถช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจให้แก่พนักงานได้อย่างยั่งยืน ปัจจัยที่ hr และองค์กร ใช้พิจารณาในการเลือกสวัสดิการพนักงานมีอะไรบ้าง การพิจารณาเลือกสวัสดิการที่บริษัทควรมีอย่างเหมาะสมเป็นหน้าที่สำคัญของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) ซึ่งต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงาน และให้สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกสวัสดิการพนักงานบริษัทมีดังนี้ การเลือกสวัสดิการพนักงานที่ดีต้องคำนึงถึงงบประมาณขององค์กร โดยต้องพิจารณาว่าสวัสดิการที่เสนอสามารถใช้จ่ายได้ในระยะยาวและไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กร เช่น การจัดหาสวัสดิการสุขภาพหรือสวัสดิการเงินเกษียณที่สามารถให้ผลประโยชน์แก่พนักงานได้อย่างยั่งยืน สวัสดิการที่ดีต้องตอบสนองความต้องการของพนักงานในหลากหลายด้าน เช่น การดูแลสุขภาพ ความมั่นคงทางการเงิน หรือแม้กระทั่งเวลาพักผ่อน พนักงานในองค์กรอาจมีความต้องการที่แตกต่างกันไปตามวัยหรือสถานะทางครอบครัว ดังนั้น การสำรวจและทำความเข้าใจความต้องการของพนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกสวัสดิการที่เหมาะสม องค์กรต้องพิจารณาความสามารถในการบริหารจัดการสวัสดิการที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การดูแลระบบสวัสดิการสุขภาพหรือการจัดสวัสดิการด้านการศึกษา โดยต้องมีการติดตามผลและประเมินความพึงพอใจของพนักงานอย่างต่อเนื่อง การพิจารณาให้สวัสดิการพนักงานต้องเป็นไปตามกฎหมายแรงงานของประเทศนั้น ๆ การเลือกสวัสดิการที่มีความสอดคล้องกับข้อบังคับทางกฎหมายจะช่วยให้องค์กรหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในภายหลัง การให้สวัสดิการพนักงานบริษัทที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถและรักษาคนเก่งไว้ได้ สวัสดิการที่มีคุณค่าอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรมีความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดแรงงาน พนักงานในองค์กรแต่ละคนอาจมีความต้องการที่แตกต่างกันไป การเสนอให้พนักงานเลือกสวัสดิการที่ตรงกับความต้องการของตนเอง จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและทำให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทใส่ใจในความต้องการของเขา สวัสดิการที่น่าสนใจหรือที่บริษัทควรมี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานในองค์กร การให้สวัสดิการพนักงานที่ดีไม่จำเป็นต้องมีจำนวนมากมาย แต่ควรเลือกสิ่งที่เหมาะสมและสามารถตอบสนองความต้องการของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนอกเหนือจากสวัสดิการหลักที่เคยได้กล่าวไปในบทความ 7 สวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจและควรให้ความสำคัญ อัพเดต 2025 แล้ว สวัสดิการที่บริษัทควรมีอื่น ๆ ที่น่าสนใจมีดังนี้ การจัดสวัสดิการด้านสุขภาพ เช่น การประกันสุขภาพสำหรับพนักงานและครอบครัว ถือเป็นสวัสดิการที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่สูง การมีสวัสดิการสุขภาพช่วยให้พนักงานไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล รวมถึงสวัสดิการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental ที่สามารถเข้ามาให้บริการทางทันตกรรมได้ที่บริษัทโดยไม่ต้องเดินทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานที่ไม่มีเวลาดูแลตนเอง อีกทั้งยังสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย การจัดตั้งกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ เช่น กองทุนประกันสังคมหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะช่วยให้พนักงานมีความมั่นคงในอนาคต และรู้สึกว่าองค์กรให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ระยะยาวของพนักงาน การให้สวัสดิการด้านการศึกษาหรืออบรมในสาขาต่าง ๆ จะช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาทักษะและเติบโตในสายอาชีพได้ สวัสดิการประเภทนี้เป็นการลงทุนที่ดีทั้งในตัวพนักงานและองค์กร วันหยุดที่เพียงพอและสามารถนำไปใช้ในเวลาที่พนักงานต้องการเป็นสิ่งสำคัญ การมีวันหยุดพักผ่อนที่เหมาะสมและการสนับสนุนการทำงานในลักษณะที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้พนักงานสามารถรักษาสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวได้ดี ในโลกที่เร่งรีบในปัจจุบัน สวัสดิการที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิต เช่น การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาหรือโปรแกรมสนับสนุนจิตใจ จะช่วยลดความเครียดและปัญหาสุขภาพจิตในที่ทำงาน การให้สวัสดิการในการเดินทาง เช่น บริการรถรับ-ส่ง หรือการชดเชยค่าเดินทางจะช่วยให้พนักงานไม่ต้องเผชิญกับความยุ่งยากจากการเดินทางไปทำงาน บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental เพื่อส่งเสริมสวัสดิการพนักงาน สวัสดิการพนักงานที่ดีไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อพนักงานเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จในการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ การเลือกสวัสดิการที่เหมาะสมและตอบโจทย์พนักงานในองค์กรจะช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจ และเพิ่มขวัญกำลังใจในการทำงาน หนึ่งในสวัสดิการที่บริษัทควรมี และสามารถนำมาใช้ในองค์กรเพื่อส่งเสริมสุขภาพของพนักงานคือ บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ จาก AT U Dental ซึ่งสามารถให้บริการตรวจสุขภาพฟันแก่พนักงานในองค์กรได้สะดวกสบาย โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปคลินิกทันตกรรม สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย การมีบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่เป็นสวัสดิการพนักงานในองค์กรจะช่วยให้พนักงานได้รับการดูแลฟันอย่างครบถ้วนและต่อเนื่อง ช่วยป้องกันปัญหาทางช่องปากที่อาจส่งผลต่อความมั่นใจในการทำงาน การเลือกรถทันตกรรมเคลื่อนที่เป็นสวัสดิการในองค์กรนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากของพนักงานและทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจในความเป็นอยู่ของพวกเขา นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพราะพนักงานที่มีสุขภาพดีจะสามารถทำงานได้เต็มที่และมีความพึงพอใจในองค์กรมากขึ้น หากคุณเป็น HR หรือผู้บริหารที่กำลังมองหาวิธีการยกระดับสวัสดิการบริษัทที่สร้างความพึงพอใจให้แก่พนักงานได้อย่างตรงจุด  บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ จาก AT U Dental คือตัวเลือกที่เหมาะสมในการตอบโจทย์สวัสดิการพนักงานในองค์กรของคุณ นอกจากพนักงานจะสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมทำฟัน 900บาท/ปี โดยไม่ต้องสำรองจ่ายได้แล้ว ยังสามารถใช้บริการทำฟันร่วมกับสวัสดิการบริษัท ประกันกลุ่ม และสิทธิประกันสุขภาพอื่น ๆ ของบริษัทได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องยุ่งยาก
โพสต์เมื่อ 24 เมษายน 2568

สวัสดิการพนักงานที่ครอบคลุมและการทำ CSR ดีต่อองค์กรอย่างไร

สวัสดิการพนักงานและการทำ CSR มีความเกี่ยวข้องการอย่างไร ในปัจจุบันการบริหารองค์กรให้ได้ประสิทธิภาพนั้น ไม่ใช่แค่การมุ่งเป้าหมายไปที่การทำกำไรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของอุตสาหกรรมมากมาย การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างจุดยืนที่มั่นคง และความไว้ใจสำหรับลูกค้าที่มีต่อองค์กร ซึ่งการจะสร้างความไว้วางใจและภาพลักษณ์ที่ดีจนมีชื่อเสียงไปสู่สังคมได้ องค์กรต้องเริ่มจากการจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ มีการสร้างเสริมสวัสดิการบริษัทที่ดีเพื่อมอบให้แก่พนักงานในองค์กร โดยสวัสดิการที่มอบให้พนักงานควรมีความครอบคลุมอย่างรอบด้าน เช่น สวัสดิการประกันสังคม สวัสดิการตรวจสุขภาพ สวัสดิการทำฟัน สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล สวัสดิการอาหารกลางวัน สวัสดิการโบนัส สวัสดิการเงินรางวัล และสวัสดิการอื่น ๆ ที่สามารถสร้างแรงจูงใจ รวมไปถึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะช่วยเพิ่มแรงผลักดันในการทำงานให้แก่พนักงานแต่ละคน เมื่อองค์กรให้ความสำคัญกับปัจจัยภายในอย่างการมอบสวัสดิการที่ดีให้แก่พนักงานภายในองค์กรของตนเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การคำนึงถึงปัจจัยภายนอกอย่างการสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทไปจนถึงคนในสังคมทั่วไป ไอเดีย CSR เพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility) เช่น การมอบบริการตรวจสุขภาพด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่แก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล, การให้ความรู้ในเรื่องที่จำเป็นแก่คนในชุมชน, การจัดทำแคมเปญสินค้า เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งขององค์กรไปช่วยเหลือยังบ้านพักคนชรา สถานรับเลี้ยงเด็ก และมูลนิธิต่าง ๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ให้สามารถเข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐานได้ เสริมสวัสดิการบริษัท และยกระดับภาพลักษณ์ด้วยกิจกรรม CSR เพื่อสังคม สวัสดิการพนักงานเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความสุขและความภักดีของพนักงาน องค์กรที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิการจะช่วยสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นในที่ทำงาน ตัวอย่างสวัสดิการที่ได้รับความนิยม เช่น การประกันสุขภาพ การดูแลสุขภาพจิต การส่งเสริมการเรียนรู้ หรือแม้กระทั่งการจัดบริการด้านทันตกรรมเพื่อป้องกันปัญหาช่องปากที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว ในขณะเดียวกันการทำโครงการ CSR เพื่อสังคม ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำหรับการเสริมสวัสดิการบริษัท ที่นอกจากจะช่วยสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร แล้วยังมีส่วนช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทมีความเอาใจใส่ และให้ความสำคัญกับตนเอง จนกลายเป็นปัจจัยในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานในองค์กรมากขึ้น ซึ่งองค์กรสามารถเชื่อมโยงสวัสดิการพนักงานกับ CSR ได้อย่างลงตัว เช่น การจัดโครงการบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพของพนักงาน และการทำเพื่อสังคมโดยตรงด้วยการให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยการผนึกกำลังกันระหว่างสวัสดิการบริษัทและการจัดทำโครงการ CSR ส่งผลให้บริษัทหรือองค์กรมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ทั้งจากประชาชนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม ไปจนถึงนักลงทุนหรือผู้เกี่ยวข้องรายอื่น และยังส่งผลต่อการตัดสินใจในการร่วมงานกับองค์กรอีกด้วย ประโยชน์ของการทำ CSR ด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ทั้งต่อสังคมและต่อองค์กร ในปัจจุบันที่สุขภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิตและการพัฒนาองค์กร การลงทุนในกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อบุคคลเท่านั้น แต่ยังสร้างความมั่นคงในระดับองค์กรและสังคมได้อีกด้วย รถทันตกรรมเคลื่อนที่ถือเป็นหนึ่งในแนวทางที่ตอบโจทย์การทำ CSR (Corporate Social Responsibility) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถเข้าถึงชุมชนหรือพื้นที่ห่างไกลที่ยังขาดการเข้าถึงด้านทันตกรรม ทำให้องค์กรสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสุขภาพฟันได้ทั้งในชุมชนและกลุ่มเป้าหมายที่ขาดโอกาสในการเข้าถึง ซึ่งรถทันตกรรมเคลื่อนที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการให้บริการสุขภาพฟัน เช่น การตรวจสุขภาพช่องปาก การอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน หรือแม้แต่ให้คำปรึกษาเบื้องต้น โดยสามารถสร้างประโยชน์ทั้งต่อองค์กรและต่อสังคมมากมาย ดังนี้ เลือกใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ จาก AT U Dental การสร้างสมดุลระหว่างสวัสดิการพนักงานและความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) เป็นสิ่งที่องค์กรไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยยกระดับความสุขของพนักงานแล้ว ยังช่วยสร้างชื่อเสียงและความไว้วางใจให้แก่องค์กรได้ในระยะยาว การใช้รถทันตกรรมเคลื่อนที่มาช่วยส่งเสริมสวัสดิการบริษัท และเป็นเครื่องมือในการดำเนินกิจกรรม CSR ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพและส่งผลในเชิงบวกต่อทุกฝ่าย บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่เป็นไอเดีย CSR ที่บริษัทหรือองค์กร สามารถซื้อ/เช่ารถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental เพื่อเข้าไปมอบบริการทางทันตกรรมให้แก่พนักงานถึงหน้าบริษัท และการมอบบริการให้แก่ประชาชนในการพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางทันตกรรมเหล่านี้ได้ โดยบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ของ AT U Dental มีทั้งทันตแพทย์มากประสบการณ์ ผู้ช่วยทันตแพทย์ อุปกรณ์ครบครัน พร้อมด้วยรถที่ผ่านการตรวจสอบและรองรับจากกระทรวงสาธารณสุข สามารถให้บริการทางทันตกรรมขั้นพื้นฐานได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถดูแลช่องปากด้วยตนเองได้ สำหรับองค์กรที่ต้องการมอบสวัสดิการดี ๆ ให้แก่พนักงานและประชาชนในชุมชนรอบข้าง สามารถเลือกใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental ได้แล้ววันนี้
โพสต์เมื่อ 17 เมษายน 2568

AT U DENTAL CLINIC – Thaisummit Harness

คลินิกทันตกรรมที่เปิดขึ้นเพื่อพนักงานองค์กรอย่างแท้จริง** เพราะพนักงานคือหัวใจขององค์กร บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับ AT U DENTAL CLINIC เปิด “AT U DENTAL CLINIC – Thaisummit Harness” อย่างเป็นทางการ เพื่อมอบบริการด้านทันตกรรมที่มีคุณภาพ ภายในสถานประกอบการ สำหรับพนักงานและบุคลากรทุกระดับ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสุขภาพช่องปากอย่างยั่งยืน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และลดข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทันตกรรมของพนักงาน แนวคิด “คลินิกในองค์กร” ที่ตอบโจทย์ชีวิตการทำงานยุคใหม่ ด้วยความเข้าใจในวิถีชีวิตของพนักงานที่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและการเดินทาง บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน) จึงร่วมมือกับ AT U DENTAL CLINIC ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทันตกรรมที่มีประสบการณ์ในการดูแลกลุ่มองค์กรและการให้บริการนอกสถานที่ มาเปิดคลินิกประจำที่ภายในองค์กร ภายใต้ชื่อ “AT U DENTAL CLINIC – Thaisummit Harness” เพื่อให้พนักงานสามารถเข้ารับบริการทางทันตกรรมได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย บริการทันตกรรมครบวงจร โดยทีมทันตแพทย์มากประสบการณ์ คลินิกแห่งนี้ให้บริการด้านทันตกรรมพื้นฐานอย่างครบถ้วน เช่น🦷 ตรวจสุขภาพช่องปาก🦷 ขูดหินปูน🦷 อุดฟัน🦷 ถอนฟัน🦷 ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพช่องปากเฉพาะบุคคล โดยทีมทันตแพทย์ประจำของ AT U DENTAL CLINIC ที่มีความเชี่ยวชาญ และผ่านการอบรมด้านการดูแลรักษาทางทันตกรรมตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย ใช้มาตรการปลอดเชื้อและควบคุมความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ส่งเสริมสุขภาพช่องปาก พัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงานอย่างยั่งยืน การเปิดคลินิกภายในองค์กรในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เป็นการอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของแนวทาง “Wellness in Workplace” ที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกให้ความสำคัญ โดย Thai Summit Harness มุ่งหวังให้พนักงานมีสุขภาพปากที่ดี ลดโอกาสเกิดโรคฟันและโรคเหงือก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม รวมถึงเพิ่มความมั่นใจในการทำงาน และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ต้องเดินทางไกล ความตั้งใจของ AT U DENTAL CLINIC: อยู่ที่ไหน ก็เข้าถึงหมอฟันได้ง่าย AT U DENTAL CLINIC ให้ความสำคัญกับ “การเข้าถึงบริการทันตกรรมอย่างเท่าเทียม” โดยมีทั้งคลินิกในองค์กร คลินิกประจำ และรถทันตกรรมเคลื่อนที่ทั่วประเทศ พร้อมทั้งมีโครงการเชิงรุกด้านสุขภาพฟันในหลายหน่วยงานภาคเอกชนและภาครัฐ การร่วมมือกับ Thai Summit Harness ครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของภารกิจ “พาคลินิกทันตกรรมเข้าใกล้พนักงาน” เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพช่องปากในทุกมิติ 📍 สำหรับองค์กรที่สนใจเปิดคลินิกทันตกรรมในสถานประกอบการ หรือใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ สามารถติดต่อ AT U DENTAL CLINIC ได้ที่:📞 โทร: 02-096-4435📩 อีเมล: sales-co@atudentalth.com🌐 เว็บไซต์: www.atudental.co.th📲 LINE: @atudental 🚀 AT U DENTAL CLINIC – พาคลินิกทันตกรรมมาอยู่ใกล้คุณ พร้อมดูแลสุขภาพฟันทุกที่ ทุกเวลาเพราะสุขภาพช่องปากที่ดี คือจุดเริ่มต้นของคุณภาพชีวิตที่มั่นคง
โพสต์เมื่อ 2 เมษายน 2568