Articles

การสร้างแรงจูงใจด้วยสวัสดิการ ช่วยสร้างบรรยากาศทำงานที่ดีได้ไวกว่า Incentive ได้อย่างไร?

ปัจจุบัน เหล่าผู้บริหารระดับสูงหรือแม้กระทั่ง HR หันมาให้ความสำคัญกับ Incentive กันอย่างมาก เนื่องจากต้องการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานและเพิ่มความน่าดึงดูดใจในการทำงานในองค์กร แน่นอนว่าการหันมาให้ความสำคัญกับสวัสดิการ Incentive เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจในองค์กรจะมีความสำคัญ แต่ในขณะเดียวกันความสำคัญของการจัดการสวัสดิการพื้นฐานขององค์กรอาจลดน้อยลง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การให้ความสำคัญกับสวัสดิการพื้นฐานเหล่านี้ ถือเป็นก้าวแรกในการทำให้เห็นถึงความใส่ใจ จนสามารถสร้างความประทับใจ ความภักดี และแรงจูงใจให้พนักงานต้องการทำงานต่อไปได้ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความสำคัญของการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในองค์กร ผ่านการมอบสวัสดิการขั้นพื้นฐานอย่างครบถ้วน ก่อนที่จะมองเลยไปถึง Incentive ความสำคัญของการสร้างแรงจูงใจพนักงานในยุคปัจจุบัน ในโลกของการทำงานที่หมุนเร็วและแข่งขันสูงในปัจจุบัน องค์กรที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับ การสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน มากกว่าที่เคย เพราะพนักงานคือ “หัวใจขององค์กร” ที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์และเป้าหมายให้เป็นจริงได้ การที่พนักงานรู้สึกมีกำลังใจในการทำงาน เป็นผลลัพธ์ของการดูแลจากองค์กรอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของสภาพแวดล้อม แรงสนับสนุน หรือวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นมิตร การทำให้พนักงานรู้สึกได้รับความสำคัญจากองค์กร จะส่งผลให้เกิดแรงจูงใจสำคัญ ทีมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนการทำงาน ดังนี้ ในทางกลับกัน หากแรงจูงใจของพนักงานลดลง จะเห็นได้ชัดว่าคุณภาพของงานและบรรยากาศในองค์กรอาจมีความเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานจึงไม่ใช่เพียงแค่การแจกโบนัส หรือตั้ง KPI แต่ต้องอาศัยการให้ความสำคัญกับความต้องการของพนักงาน เพื่อนำมาใช้ร่วมกับการมอบสวัสดิการได้อย่างตรงจุด ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการสร้างแรงจูงใจพนักงาน นอกเหนือจากเงินเดือน การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในการทำงาน ทั้งผู้บริหารระดับสูงและ HR จำเป็นต้องคำนึงให้ครอบคลุมหลายด้าน เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าได้รับการดูแลทั้งทางกายและใจ โดยปัจจัยสำคัญที่ควรใส่ใจเพิ่มเติมนอกเหนือจากเรื่องเงินเดือน มีดังนี้ การสร้างสวัสดิการพื้นฐานให้แข็งแกร่ง ก่อนคิดเรื่อง Incentive ก่อนที่องค์กรจะมองไปถึง Incentive สิ่งสำคัญที่ควรทำคือ การย้อนกลับมามองว่า “สวัสดิการพื้นฐาน” ที่ให้กับพนักงานมีความครบถ้วนและเข้าถึงได้จริงหรือไม่ เพราะสวัสดิการพื้นฐานเป็นหนึ่งในปัจจัยในการสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน และยังเป็นสิ่งที่พนักงานคาดหวังเป็นลำดับต้น ๆ ในการเลือกทำงานกับองค์กร โดยองค์ประกอบของสวัสดิการพื้นฐานที่ควรให้ความสำคัญ คือ แนวทางการสร้างสวัสดิการให้แข็งแกร่ง อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สวัสดิการในองค์กรมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ต่อผู้ที่ได้รับอย่างตรงจุด HR ควรมีการออกแบบสวัสดิการเหล่านี้อย่างมีกลยุทธ์ โดยมีแนวทางดังนี้ บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental หนึ่งในสวัสดิการด้านสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่องค์กรยุคใหม่ คือ บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ซึ่ง AT U Dental ได้ออกแบบขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งฝ่าย HR และพนักงาน ด้วยจุดเด่นที่ตอบโจทย์ชีวิตของเหล่าพนักงานที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก โดยข้อดีของบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ได้แก่ สรุป การสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าในยุคปัจจุบัน การดูแลพนักงานอย่างแท้จริงไม่ได้จำกัดแค่เรื่องการเพิ่มเงินเดือนหรือให้โบนัสเท่านั้น แต่ต้องมองให้กว้างมากขึ้น ทั้งการออกแบบสวัสดิการพื้นฐานที่แข็งแกร่ง การสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี รวมถึงการพัฒนาความสามารถของพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานที่ดีจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน และทำให้พนักงานรู้สึกถึงคุณค่าของตนเองในองค์กร องค์กรจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทั้งสวัสดิการพื้นฐานอย่าง วันหยุด ประกันสังคม ประกันสุขภาพ Incentive และบริการเสริมอื่น ๆ เช่น รถทันตกรรมเคลื่อนที่ รวมไปถึงการรับฟังความเห็นของพนักงานอย่างเปิดกว้าง เพื่อส่งมอบสวัสดิการที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง สำหรับองค์กรที่สนใจบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental สามารถติดต่อเพื่อใช้บริการได้แล้ววันนี้ พวกเราพร้อมให้บริการทางทันตกรรมอย่างครบครัน และสะดวกสบาย
โพสต์เมื่อ 24 เมษายน 2568

แนะนำแนวทางสร้างสวัสดิการบริษัทที่ดี ให้แก่พนักงานในองค์กร

ความจำเป็นของการมีสวัสดิการพนักงานที่ดี สวัสดิการพนักงานเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและมีประสิทธิภาพภายในองค์กร ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความสุขของพนักงานเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อผลลัพธ์การทำงานโดยรวมขององค์กรอีกด้วย การมอบสวัสดิการที่ดีช่วยให้พนักงานรู้สึกมีค่าและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ซึ่งส่งผลให้พนักงานมีความพึงพอใจในงานและมีความภักดีต่อบริษัทมากขึ้น นอกจากนี้การสร้างสวัสดิการพนักงานบริษัทที่ดียังสามารถช่วยให้องค์กรมีความได้เปรียบในการดึงดูดและรักษาคนทำงานที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรได้ในระยะยาว การจัดการสวัสดิการพนักงานเป็นหนึ่งในหน้าที่หลักของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) ที่ต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้านทั้งในเชิงการเงินและความต้องการของพนักงาน เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของทั้งพนักงานและองค์กร การให้สวัสดิการที่เหมาะสมไม่เพียงแค่ช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจให้แก่พนักงาน แต่ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและบริษัทได้ ดังนั้นการพิจารณาสวัสดิการพนักงานในองค์กรนั้นต้องคำนึงถึงความต้องการที่หลากหลายของพนักงาน ทั้งในด้านการดูแลสุขภาพ การพัฒนาทักษะ และความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เพื่อความพึงพอใจและสามารถช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจให้แก่พนักงานได้อย่างยั่งยืน ปัจจัยที่ hr และองค์กร ใช้พิจารณาในการเลือกสวัสดิการพนักงานมีอะไรบ้าง การพิจารณาเลือกสวัสดิการที่บริษัทควรมีอย่างเหมาะสมเป็นหน้าที่สำคัญของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) ซึ่งต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงาน และให้สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกสวัสดิการพนักงานบริษัทมีดังนี้ การเลือกสวัสดิการพนักงานที่ดีต้องคำนึงถึงงบประมาณขององค์กร โดยต้องพิจารณาว่าสวัสดิการที่เสนอสามารถใช้จ่ายได้ในระยะยาวและไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กร เช่น การจัดหาสวัสดิการสุขภาพหรือสวัสดิการเงินเกษียณที่สามารถให้ผลประโยชน์แก่พนักงานได้อย่างยั่งยืน สวัสดิการที่ดีต้องตอบสนองความต้องการของพนักงานในหลากหลายด้าน เช่น การดูแลสุขภาพ ความมั่นคงทางการเงิน หรือแม้กระทั่งเวลาพักผ่อน พนักงานในองค์กรอาจมีความต้องการที่แตกต่างกันไปตามวัยหรือสถานะทางครอบครัว ดังนั้น การสำรวจและทำความเข้าใจความต้องการของพนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกสวัสดิการที่เหมาะสม องค์กรต้องพิจารณาความสามารถในการบริหารจัดการสวัสดิการที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การดูแลระบบสวัสดิการสุขภาพหรือการจัดสวัสดิการด้านการศึกษา โดยต้องมีการติดตามผลและประเมินความพึงพอใจของพนักงานอย่างต่อเนื่อง การพิจารณาให้สวัสดิการพนักงานต้องเป็นไปตามกฎหมายแรงงานของประเทศนั้น ๆ การเลือกสวัสดิการที่มีความสอดคล้องกับข้อบังคับทางกฎหมายจะช่วยให้องค์กรหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในภายหลัง การให้สวัสดิการพนักงานบริษัทที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถและรักษาคนเก่งไว้ได้ สวัสดิการที่มีคุณค่าอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรมีความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดแรงงาน พนักงานในองค์กรแต่ละคนอาจมีความต้องการที่แตกต่างกันไป การเสนอให้พนักงานเลือกสวัสดิการที่ตรงกับความต้องการของตนเอง จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและทำให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทใส่ใจในความต้องการของเขา สวัสดิการที่น่าสนใจหรือที่บริษัทควรมี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานในองค์กร การให้สวัสดิการพนักงานที่ดีไม่จำเป็นต้องมีจำนวนมากมาย แต่ควรเลือกสิ่งที่เหมาะสมและสามารถตอบสนองความต้องการของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนอกเหนือจากสวัสดิการหลักที่เคยได้กล่าวไปในบทความ 7 สวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจและควรให้ความสำคัญ อัพเดต 2025 แล้ว สวัสดิการที่บริษัทควรมีอื่น ๆ ที่น่าสนใจมีดังนี้ การจัดสวัสดิการด้านสุขภาพ เช่น การประกันสุขภาพสำหรับพนักงานและครอบครัว ถือเป็นสวัสดิการที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่สูง การมีสวัสดิการสุขภาพช่วยให้พนักงานไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล รวมถึงสวัสดิการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental ที่สามารถเข้ามาให้บริการทางทันตกรรมได้ที่บริษัทโดยไม่ต้องเดินทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานที่ไม่มีเวลาดูแลตนเอง อีกทั้งยังสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย การจัดตั้งกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ เช่น กองทุนประกันสังคมหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะช่วยให้พนักงานมีความมั่นคงในอนาคต และรู้สึกว่าองค์กรให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ระยะยาวของพนักงาน การให้สวัสดิการด้านการศึกษาหรืออบรมในสาขาต่าง ๆ จะช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาทักษะและเติบโตในสายอาชีพได้ สวัสดิการประเภทนี้เป็นการลงทุนที่ดีทั้งในตัวพนักงานและองค์กร วันหยุดที่เพียงพอและสามารถนำไปใช้ในเวลาที่พนักงานต้องการเป็นสิ่งสำคัญ การมีวันหยุดพักผ่อนที่เหมาะสมและการสนับสนุนการทำงานในลักษณะที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้พนักงานสามารถรักษาสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวได้ดี ในโลกที่เร่งรีบในปัจจุบัน สวัสดิการที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิต เช่น การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาหรือโปรแกรมสนับสนุนจิตใจ จะช่วยลดความเครียดและปัญหาสุขภาพจิตในที่ทำงาน การให้สวัสดิการในการเดินทาง เช่น บริการรถรับ-ส่ง หรือการชดเชยค่าเดินทางจะช่วยให้พนักงานไม่ต้องเผชิญกับความยุ่งยากจากการเดินทางไปทำงาน บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental เพื่อส่งเสริมสวัสดิการพนักงาน สวัสดิการพนักงานที่ดีไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อพนักงานเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จในการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ การเลือกสวัสดิการที่เหมาะสมและตอบโจทย์พนักงานในองค์กรจะช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจ และเพิ่มขวัญกำลังใจในการทำงาน หนึ่งในสวัสดิการที่บริษัทควรมี และสามารถนำมาใช้ในองค์กรเพื่อส่งเสริมสุขภาพของพนักงานคือ บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ จาก AT U Dental ซึ่งสามารถให้บริการตรวจสุขภาพฟันแก่พนักงานในองค์กรได้สะดวกสบาย โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปคลินิกทันตกรรม สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย การมีบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่เป็นสวัสดิการพนักงานในองค์กรจะช่วยให้พนักงานได้รับการดูแลฟันอย่างครบถ้วนและต่อเนื่อง ช่วยป้องกันปัญหาทางช่องปากที่อาจส่งผลต่อความมั่นใจในการทำงาน การเลือกรถทันตกรรมเคลื่อนที่เป็นสวัสดิการในองค์กรนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากของพนักงานและทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจในความเป็นอยู่ของพวกเขา นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพราะพนักงานที่มีสุขภาพดีจะสามารถทำงานได้เต็มที่และมีความพึงพอใจในองค์กรมากขึ้น หากคุณเป็น HR หรือผู้บริหารที่กำลังมองหาวิธีการยกระดับสวัสดิการบริษัทที่สร้างความพึงพอใจให้แก่พนักงานได้อย่างตรงจุด  บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ จาก AT U Dental คือตัวเลือกที่เหมาะสมในการตอบโจทย์สวัสดิการพนักงานในองค์กรของคุณ นอกจากพนักงานจะสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมทำฟัน 900บาท/ปี โดยไม่ต้องสำรองจ่ายได้แล้ว ยังสามารถใช้บริการทำฟันร่วมกับสวัสดิการบริษัท ประกันกลุ่ม และสิทธิประกันสุขภาพอื่น ๆ ของบริษัทได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องยุ่งยาก
โพสต์เมื่อ 24 เมษายน 2568

สวัสดิการพนักงานที่ครอบคลุมและการทำ CSR ดีต่อองค์กรอย่างไร

สวัสดิการพนักงานและการทำ CSR มีความเกี่ยวข้องการอย่างไร ในปัจจุบันการบริหารองค์กรให้ได้ประสิทธิภาพนั้น ไม่ใช่แค่การมุ่งเป้าหมายไปที่การทำกำไรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของอุตสาหกรรมมากมาย การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างจุดยืนที่มั่นคง และความไว้ใจสำหรับลูกค้าที่มีต่อองค์กร ซึ่งการจะสร้างความไว้วางใจและภาพลักษณ์ที่ดีจนมีชื่อเสียงไปสู่สังคมได้ องค์กรต้องเริ่มจากการจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ มีการสร้างเสริมสวัสดิการบริษัทที่ดีเพื่อมอบให้แก่พนักงานในองค์กร โดยสวัสดิการที่มอบให้พนักงานควรมีความครอบคลุมอย่างรอบด้าน เช่น สวัสดิการประกันสังคม สวัสดิการตรวจสุขภาพ สวัสดิการทำฟัน สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล สวัสดิการอาหารกลางวัน สวัสดิการโบนัส สวัสดิการเงินรางวัล และสวัสดิการอื่น ๆ ที่สามารถสร้างแรงจูงใจ รวมไปถึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะช่วยเพิ่มแรงผลักดันในการทำงานให้แก่พนักงานแต่ละคน เมื่อองค์กรให้ความสำคัญกับปัจจัยภายในอย่างการมอบสวัสดิการที่ดีให้แก่พนักงานภายในองค์กรของตนเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การคำนึงถึงปัจจัยภายนอกอย่างการสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทไปจนถึงคนในสังคมทั่วไป ไอเดีย CSR เพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility) เช่น การมอบบริการตรวจสุขภาพด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่แก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล, การให้ความรู้ในเรื่องที่จำเป็นแก่คนในชุมชน, การจัดทำแคมเปญสินค้า เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งขององค์กรไปช่วยเหลือยังบ้านพักคนชรา สถานรับเลี้ยงเด็ก และมูลนิธิต่าง ๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ให้สามารถเข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐานได้ เสริมสวัสดิการบริษัท และยกระดับภาพลักษณ์ด้วยกิจกรรม CSR เพื่อสังคม สวัสดิการพนักงานเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความสุขและความภักดีของพนักงาน องค์กรที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิการจะช่วยสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นในที่ทำงาน ตัวอย่างสวัสดิการที่ได้รับความนิยม เช่น การประกันสุขภาพ การดูแลสุขภาพจิต การส่งเสริมการเรียนรู้ หรือแม้กระทั่งการจัดบริการด้านทันตกรรมเพื่อป้องกันปัญหาช่องปากที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว ในขณะเดียวกันการทำโครงการ CSR เพื่อสังคม ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำหรับการเสริมสวัสดิการบริษัท ที่นอกจากจะช่วยสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร แล้วยังมีส่วนช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทมีความเอาใจใส่ และให้ความสำคัญกับตนเอง จนกลายเป็นปัจจัยในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานในองค์กรมากขึ้น ซึ่งองค์กรสามารถเชื่อมโยงสวัสดิการพนักงานกับ CSR ได้อย่างลงตัว เช่น การจัดโครงการบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพของพนักงาน และการทำเพื่อสังคมโดยตรงด้วยการให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยการผนึกกำลังกันระหว่างสวัสดิการบริษัทและการจัดทำโครงการ CSR ส่งผลให้บริษัทหรือองค์กรมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ทั้งจากประชาชนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม ไปจนถึงนักลงทุนหรือผู้เกี่ยวข้องรายอื่น และยังส่งผลต่อการตัดสินใจในการร่วมงานกับองค์กรอีกด้วย ประโยชน์ของการทำ CSR ด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ทั้งต่อสังคมและต่อองค์กร ในปัจจุบันที่สุขภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิตและการพัฒนาองค์กร การลงทุนในกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อบุคคลเท่านั้น แต่ยังสร้างความมั่นคงในระดับองค์กรและสังคมได้อีกด้วย รถทันตกรรมเคลื่อนที่ถือเป็นหนึ่งในแนวทางที่ตอบโจทย์การทำ CSR (Corporate Social Responsibility) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถเข้าถึงชุมชนหรือพื้นที่ห่างไกลที่ยังขาดการเข้าถึงด้านทันตกรรม ทำให้องค์กรสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสุขภาพฟันได้ทั้งในชุมชนและกลุ่มเป้าหมายที่ขาดโอกาสในการเข้าถึง ซึ่งรถทันตกรรมเคลื่อนที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการให้บริการสุขภาพฟัน เช่น การตรวจสุขภาพช่องปาก การอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน หรือแม้แต่ให้คำปรึกษาเบื้องต้น โดยสามารถสร้างประโยชน์ทั้งต่อองค์กรและต่อสังคมมากมาย ดังนี้ เลือกใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ จาก AT U Dental การสร้างสมดุลระหว่างสวัสดิการพนักงานและความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) เป็นสิ่งที่องค์กรไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยยกระดับความสุขของพนักงานแล้ว ยังช่วยสร้างชื่อเสียงและความไว้วางใจให้แก่องค์กรได้ในระยะยาว การใช้รถทันตกรรมเคลื่อนที่มาช่วยส่งเสริมสวัสดิการบริษัท และเป็นเครื่องมือในการดำเนินกิจกรรม CSR ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพและส่งผลในเชิงบวกต่อทุกฝ่าย บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่เป็นไอเดีย CSR ที่บริษัทหรือองค์กร สามารถซื้อ/เช่ารถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental เพื่อเข้าไปมอบบริการทางทันตกรรมให้แก่พนักงานถึงหน้าบริษัท และการมอบบริการให้แก่ประชาชนในการพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางทันตกรรมเหล่านี้ได้ โดยบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ของ AT U Dental มีทั้งทันตแพทย์มากประสบการณ์ ผู้ช่วยทันตแพทย์ อุปกรณ์ครบครัน พร้อมด้วยรถที่ผ่านการตรวจสอบและรองรับจากกระทรวงสาธารณสุข สามารถให้บริการทางทันตกรรมขั้นพื้นฐานได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถดูแลช่องปากด้วยตนเองได้ สำหรับองค์กรที่ต้องการมอบสวัสดิการดี ๆ ให้แก่พนักงานและประชาชนในชุมชนรอบข้าง สามารถเลือกใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental ได้แล้ววันนี้
โพสต์เมื่อ 17 เมษายน 2568

AT U DENTAL CLINIC – Thaisummit Harness

คลินิกทันตกรรมที่เปิดขึ้นเพื่อพนักงานองค์กรอย่างแท้จริง** เพราะพนักงานคือหัวใจขององค์กร บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับ AT U DENTAL CLINIC เปิด “AT U DENTAL CLINIC – Thaisummit Harness” อย่างเป็นทางการ เพื่อมอบบริการด้านทันตกรรมที่มีคุณภาพ ภายในสถานประกอบการ สำหรับพนักงานและบุคลากรทุกระดับ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสุขภาพช่องปากอย่างยั่งยืน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และลดข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทันตกรรมของพนักงาน แนวคิด “คลินิกในองค์กร” ที่ตอบโจทย์ชีวิตการทำงานยุคใหม่ ด้วยความเข้าใจในวิถีชีวิตของพนักงานที่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและการเดินทาง บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน) จึงร่วมมือกับ AT U DENTAL CLINIC ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทันตกรรมที่มีประสบการณ์ในการดูแลกลุ่มองค์กรและการให้บริการนอกสถานที่ มาเปิดคลินิกประจำที่ภายในองค์กร ภายใต้ชื่อ “AT U DENTAL CLINIC – Thaisummit Harness” เพื่อให้พนักงานสามารถเข้ารับบริการทางทันตกรรมได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย บริการทันตกรรมครบวงจร โดยทีมทันตแพทย์มากประสบการณ์ คลินิกแห่งนี้ให้บริการด้านทันตกรรมพื้นฐานอย่างครบถ้วน เช่น🦷 ตรวจสุขภาพช่องปาก🦷 ขูดหินปูน🦷 อุดฟัน🦷 ถอนฟัน🦷 ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพช่องปากเฉพาะบุคคล โดยทีมทันตแพทย์ประจำของ AT U DENTAL CLINIC ที่มีความเชี่ยวชาญ และผ่านการอบรมด้านการดูแลรักษาทางทันตกรรมตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย ใช้มาตรการปลอดเชื้อและควบคุมความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ส่งเสริมสุขภาพช่องปาก พัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงานอย่างยั่งยืน การเปิดคลินิกภายในองค์กรในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เป็นการอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของแนวทาง “Wellness in Workplace” ที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกให้ความสำคัญ โดย Thai Summit Harness มุ่งหวังให้พนักงานมีสุขภาพปากที่ดี ลดโอกาสเกิดโรคฟันและโรคเหงือก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม รวมถึงเพิ่มความมั่นใจในการทำงาน และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ต้องเดินทางไกล ความตั้งใจของ AT U DENTAL CLINIC: อยู่ที่ไหน ก็เข้าถึงหมอฟันได้ง่าย AT U DENTAL CLINIC ให้ความสำคัญกับ “การเข้าถึงบริการทันตกรรมอย่างเท่าเทียม” โดยมีทั้งคลินิกในองค์กร คลินิกประจำ และรถทันตกรรมเคลื่อนที่ทั่วประเทศ พร้อมทั้งมีโครงการเชิงรุกด้านสุขภาพฟันในหลายหน่วยงานภาคเอกชนและภาครัฐ การร่วมมือกับ Thai Summit Harness ครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของภารกิจ “พาคลินิกทันตกรรมเข้าใกล้พนักงาน” เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพช่องปากในทุกมิติ 📍 สำหรับองค์กรที่สนใจเปิดคลินิกทันตกรรมในสถานประกอบการ หรือใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ สามารถติดต่อ AT U DENTAL CLINIC ได้ที่:📞 โทร: 02-096-4435📩 อีเมล: sales-co@atudentalth.com🌐 เว็บไซต์: www.atudental.co.th📲 LINE: @atudental 🚀 AT U DENTAL CLINIC – พาคลินิกทันตกรรมมาอยู่ใกล้คุณ พร้อมดูแลสุขภาพฟันทุกที่ ทุกเวลาเพราะสุขภาพช่องปากที่ดี คือจุดเริ่มต้นของคุณภาพชีวิตที่มั่นคง
โพสต์เมื่อ 2 เมษายน 2568

เครือข่ายคลินิกพาร์ทเนอร์ของ AT U Dental

ยกระดับการดูแลสุขภาพช่องปาก ด้วยพันธมิตรคุณภาพทั่วประเทศ AT U Dental มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการด้านทันตกรรมอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ ผ่านการพัฒนาเครือข่าย คลินิกพาร์ทเนอร์ ที่ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย โดยร่วมมือกับคลินิกทันตกรรมกว่า 25 แห่ง ที่มีมาตรฐานการบริการสอดคล้องกับแนวทางของ AT U Dental ทั้งในด้านวิชาชีพ การให้บริการ และระบบบริหารจัดการ 🦷 บริการของเรา เครือข่าย AT U Dental พร้อมให้บริการดูแลสุขภาพช่องปากในรูปแบบที่หลากหลาย ได้แก่ ✅ บริการทันตกรรมในองค์กรและภาคอุตสาหกรรม– ตรวจสุขภาพช่องปาก– ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน– เคลือบฟลูออไรด์– ให้คำปรึกษาด้านทันตกรรมรายบุคคล– ออกใบรายงานผลและติดตามต่อเนื่อง ✅ บริการเชิงพื้นที่ / หน่วยงานราชการ / เทศบาล / โรงเรียน – ออกหน่วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่– จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพฟัน– สร้างความร่วมมือด้าน CSR และ Public Health ✅ บริการเพื่อประชาชนทั่วไป – นัดหมายเพื่อรับบริการผ่านคลินิกพาร์ทเนอร์– รับบริการต่อเนื่องหลังออกหน่วย– การดูแลในพื้นที่ที่รถทันตกรรมไม่สามารถเข้าถึงได้ ✨ การยกระดับบริการด้วยเครือข่ายพาร์ทเนอร์ การทำงานร่วมกับคลินิกพาร์ทเนอร์ช่วยให้ AT U Dental สามารถ: 🔹 ขยายขอบเขตการเข้าถึงบริการได้กว้างขึ้น ทั้งในเขตเมืองและพื้นที่ชนบท🔹 ยกระดับมาตรฐานบริการทันตกรรม ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ🔹 สนับสนุนการให้บริการของรถทันตกรรมเคลื่อนที่ โดยมีคลินิกรองรับการดูแลต่อเนื่อง🔹 รองรับการประสานงานกับองค์กรหรือ HR ได้อย่างรวดเร็วและเป็นมืออาชีพ 🔹 สร้างประโยชน์เชิงกลยุทธ์ระหว่างภาคธุรกิจและการพัฒนาสุขภาพชุมชน ด้วยระบบจัดการแบบครบวงจร ทั้งทีมทันตแพทย์ บุคลากรแอดมิน ระบบฐานข้อมูล และคลินิกเครือข่าย เราจึงสามารถส่งมอบประสบการณ์การดูแลสุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพ พร้อมความสะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง 📍 สนใจร่วมเป็นคลินิกพาร์ทเนอร์ หรือต้องการขอรับบริการในองค์กร📞 โทร: 02-096-4435📩 LINE: @atudental🌐 เว็บไซต์: www.atudental.co.th AT U Dental – เราเชื่อว่ารอยยิ้มที่ดี เริ่มต้นจากการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ The Endless Confidence เพราะรอยยิ้มที่มั่นใจ คือพลังที่ไม่มีวันสิ้นสุด
โพสต์เมื่อ 28 มีนาคม 2568

ข้อดีของการดูแลฟัน ด้วยสิทธิประกันสังคม และประกันกลุ่ม

สุขภาพช่องปากเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพโดยรวมของเรา การใช้สิทธิประกันสังคมและประกันกลุ่มในการดูแลสุขภาพฟันช่วยให้คุณเข้าถึงบริการทันตกรรมได้สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่าย มาดูกันว่า สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมและประกันกลุ่มช่วยคุณได้อย่างไรบ้าง 📌 ประกันกลุ่ม และประกันสังคม สำคัญกับมนุษย์เงินเดือนอย่างไร? 🛡 ประกันกลุ่ม (Group Insurance) 📋 ประกันสังคม (Social Security Fund) 🌟 ข้อดีของการใช้สิทธิประกันสังคมและประกันกลุ่มในการทำฟัน 🦷 ทำฟันที่ AT U DENTAL ดีกว่าอย่างไร? ✨ ไม่ว่าคุณจะใช้สิทธิประกันกลุ่มหรือประกันสังคม AT U DENTAL พร้อมดูแลสุขภาพฟันของคุณ เพราะ รอยยิ้มที่มั่นใจ คือพลังที่ไม่มีวันสิ้นสุด 😊
โพสต์เมื่อ 11 มีนาคม 2568

PDCA เครื่องมือสร้างประสิทธิภาพให้องค์กรอย่างแข็งแกร่ง

ทำความรู้จัก PDCA คืออะไร PDCA เป็นแนวคิดที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในการบริหารงานและพัฒนาองค์กรให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง แนวทางนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง หลักการของ PDCA หรือ Plan-Do-Check-Act ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ เมื่อแนวทางนี้ถูกนำไปใช้ในองค์กรอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้การดำเนินงานมีความเป็นระบบ สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การพัฒนาองค์กรที่ยั่งยืน นอกจากการบริหารกระบวนการทำงานแล้ว PDCA ยังสามารถนำมาใช้ในการส่งเสริมสุขภาพของพนักงานได้ เช่น บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ วางแผนการพัฒนาองค์กรด้วยกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ ภายใต้หลัก PDCA การพัฒนาองค์กรให้แข็งแกร่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากขาดการดูแลพนักงานซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร การที่พนักงานมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดอัตราการลาป่วย และเสริมสร้างความผูกพันกับองค์กร ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การนำแนวทาง PDCA มาใช้ในการวางแผนกิจกรรมเพื่อสุขภาพ เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินโครงการด้านสุขภาพได้อย่างเป็นระบบ เริ่มจากขั้นตอน Plan (วางแผน) ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของพนักงานผ่านการสำรวจหรือการตรวจสุขภาพ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม เช่น การจัดอบรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ หรือการตรวจสุขภาพประจำปี เมื่อวางแผนเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ Do (ลงมือทำ) ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการตามแผนที่วางไว้ โดยอาจเริ่มจากการจัดกิจกรรมทดลองหรือโครงการนำร่องเพื่อประเมินประสิทธิผลของกิจกรรม เช่น การให้พนักงานเข้าร่วมคลาสออกกำลังกาย  หลังจากดำเนินกิจกรรมแล้ว องค์กรจำเป็นต้องเข้าสู่ขั้นตอน Check (ตรวจสอบ) ซึ่งเป็นการประเมินผลลัพธ์ของกิจกรรมที่จัดขึ้นว่ามีผลต่อสุขภาพของพนักงานมากน้อยเพียงใด โดยพิจารณาจากอัตราการเข้าร่วมของพนักงาน ผลตอบรับจากการสำรวจความคิดเห็น และการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพที่เกิดขึ้น สุดท้ายคือ Act (ปรับปรุงและพัฒนา) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่นำข้อมูลจากการตรวจสอบมาวิเคราะห์และปรับปรุงให้กิจกรรมในอนาคตมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น หากพบว่าพนักงานให้ความสนใจในการออกกำลังกายแต่มีข้อจำกัดด้านเวลา องค์กรอาจปรับเพิ่มกิจกรรมการออกกำลังเข้ามา เป็นสวัสดิการใหม่ขององค์กร กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง การส่งเสริมสุขภาพของพนักงานเป็นเรื่องที่หลายองค์กรให้ความสำคัญ เพราะสุขภาพที่ดีส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงาน ลดอัตราการลาป่วย และช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีขึ้น การส่งเสริมสุขภาพมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะขององค์กรและความต้องการของพนักงาน โดยองค์กรสามารถนำวิธีการ PDCA มาปรับใช้กับการส่งเสริมสุขภาพที่น่าสนใจได้ ดังนี้ ข้อดีของการเสริมสร้างกิจกรรมทางสุขภาพให้แก่พนักงาน เมื่อพนักงานมีสุขภาพดี ย่อมสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดปัญหาการหยุดงานบ่อยซึ่งเป็นปัญหาสำคัญขององค์กรที่ต้องเผชิญกับต้นทุนที่เกิดจากการลาป่วย ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการหาพนักงานสำรอง หรือผลกระทบที่เกิดจากงานที่ถูกเลื่อนออกไป การดูแลสุขภาพของพนักงานตั้งแต่ต้นจึงเป็นการลงทุนที่ช่วยให้องค์กรลดต้นทุนด้านนี้ได้ เมื่อพนักงานรู้สึกว่าองค์กรให้ความสำคัญกับสุขภาพของพวกเขา ย่อมเกิดความรู้สึกผูกพันและไว้วางใจต่อองค์กรมากขึ้น ความรู้สึกนี้ส่งผลต่อความพึงพอใจในงาน และทำให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น ลดอัตราการลาออก และเพิ่มความสามารถในการรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ องค์กรที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของพนักงานจะถูกมองว่าเป็นองค์กรที่ใส่ใจคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพให้มาร่วมงาน การที่บริษัทมีวัฒนธรรมการทำงานที่สนับสนุนสุขภาพดี ไม่เพียงช่วยให้พนักงานปัจจุบันทำงานอย่างมีความสุข แต่ยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้ที่กำลังมองหางานสนใจเข้าร่วมองค์กร กิจกรรมด้านสุขภาพ เช่น การออกกำลังกายร่วมกัน การจัดอบรมสุขภาพ หรือการมีบริการดูแลสุขภาพภายในองค์กร ช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำงาน พนักงานจะมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น เกิดความสามัคคีและความร่วมมือระหว่างทีม อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันให้พนักงานมีไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพ ลดความเครียดจากการทำงาน และทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานโดยรวมดีขึ้น ความสำคัญของ PDCA และบริการจากรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental การใช้ PDCA เป็นตัวช่วยสำหรับการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินโครงการด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การดูแลสุขภาพพนักงานในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกาย สุขภาพจิต โภชนาการ หรือสุขภาพช่องปาก ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีความสุขในการทำงาน สำหรับองค์กรที่สนใจการใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการทางทันตกรรมอย่างครบถ้วนและสะดวกสบายให้แก่พนักงานในองค์กร ขอแนะนำบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental พร้อมให้บริการแก่คนไข้อย่างเต็มที่ ด้วยทันตแพทย์ที่มีใบรับรอง ผู้ช่วยทันตแพทย์ และอุปกรณ์แบบครบครัน สามารถตรวจช่องปาก ขูดหินปูน อุดฟัน พร้อมทั้งให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี เพื่อให้พนักงานมีสุขภาพฟันที่ดี และส่งเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้อย่างมืออาชีพ
โพสต์เมื่อ 10 มีนาคม 2568

สวัสดิการพนักงานที่ครอบคลุมและการทำ CSR ดีต่อองค์กรอย่างไร

สวัสดิการพนักงานและการทำ CSR มีความเกี่ยวข้องการอย่างไร ในปัจจุบันการบริหารองค์กรให้ได้ประสิทธิภาพนั้น ไม่ใช่แค่การมุ่งเป้าหมายไปที่การทำกำไรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของอุตสาหกรรมมากมาย การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างจุดยืนที่มั่นคง และความไว้ใจสำหรับลูกค้าที่มีต่อองค์กร ซึ่งการจะสร้างความไว้วางใจและภาพลักษณ์ที่ดีจนมีชื่อเสียงไปสู่สังคมได้ องค์กรต้องเริ่มจากการจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ มีการสร้างเสริมสวัสดิการบริษัทที่ดีเพื่อมอบให้แก่พนักงานในองค์กร โดยสวัสดิการที่มอบให้พนักงานควรมีความครอบคลุมอย่างรอบด้าน เช่น สวัสดิการประกันสังคม สวัสดิการตรวจสุขภาพ สวัสดิการทำฟัน สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล สวัสดิการอาหารกลางวัน สวัสดิการโบนัส สวัสดิการเงินรางวัล และสวัสดิการอื่น ๆ ที่สามารถสร้างแรงจูงใจ รวมไปถึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะช่วยเพิ่มแรงผลักดันในการทำงานให้แก่พนักงานแต่ละคน เมื่อองค์กรให้ความสำคัญกับปัจจัยภายในอย่างการมอบสวัสดิการที่ดีให้แก่พนักงานภายในองค์กรของตนเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การคำนึงถึงปัจจัยภายนอกอย่างการสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทไปจนถึงคนในสังคมทั่วไป ไอเดีย CSR เพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility) เช่น การมอบบริการตรวจสุขภาพด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่แก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล, การให้ความรู้ในเรื่องที่จำเป็นแก่คนในชุมชน, การจัดทำแคมเปญสินค้า เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งขององค์กรไปช่วยเหลือยังบ้านพักคนชรา สถานรับเลี้ยงเด็ก และมูลนิธิต่าง ๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ให้สามารถเข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐานได้ เสริมสวัสดิการบริษัท และยกระดับภาพลักษณ์ด้วยกิจกรรม CSR เพื่อสังคม สวัสดิการพนักงานเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความสุขและความภักดีของพนักงาน องค์กรที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิการจะช่วยสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นในที่ทำงาน ตัวอย่างสวัสดิการที่ได้รับความนิยม เช่น การประกันสุขภาพ การดูแลสุขภาพจิต การส่งเสริมการเรียนรู้ หรือแม้กระทั่งการจัดบริการด้านทันตกรรมเพื่อป้องกันปัญหาช่องปากที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว ในขณะเดียวกันการทำโครงการ CSR เพื่อสังคม ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำหรับการเสริมสวัสดิการบริษัท ที่นอกจากจะช่วยสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร แล้วยังมีส่วนช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทมีความเอาใจใส่ และให้ความสำคัญกับตนเอง จนกลายเป็นปัจจัยในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานในองค์กรมากขึ้น ซึ่งองค์กรสามารถเชื่อมโยงสวัสดิการพนักงานกับ CSR ได้อย่างลงตัว เช่น การจัดโครงการบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพของพนักงาน และการทำเพื่อสังคมโดยตรงด้วยการให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยการผนึกกำลังกันระหว่างสวัสดิการบริษัทและการจัดทำโครงการ CSR ส่งผลให้บริษัทหรือองค์กรมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ทั้งจากประชาชนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม ไปจนถึงนักลงทุนหรือผู้เกี่ยวข้องรายอื่น และยังส่งผลต่อการตัดสินใจในการร่วมงานกับองค์กรอีกด้วย ประโยชน์ของการทำ CSR ด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ทั้งต่อสังคมและต่อองค์กร ในปัจจุบันที่สุขภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิตและการพัฒนาองค์กร การลงทุนในกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อบุคคลเท่านั้น แต่ยังสร้างความมั่นคงในระดับองค์กรและสังคมได้อีกด้วย รถทันตกรรมเคลื่อนที่ถือเป็นหนึ่งในแนวทางที่ตอบโจทย์การทำ CSR (Corporate Social Responsibility) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถเข้าถึงชุมชนหรือพื้นที่ห่างไกลที่ยังขาดการเข้าถึงด้านทันตกรรม ทำให้องค์กรสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสุขภาพฟันได้ทั้งในชุมชนและกลุ่มเป้าหมายที่ขาดโอกาสในการเข้าถึง ซึ่งรถทันตกรรมเคลื่อนที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการให้บริการสุขภาพฟัน เช่น การตรวจสุขภาพช่องปาก การอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน หรือแม้แต่ให้คำปรึกษาเบื้องต้น โดยสามารถสร้างประโยชน์ทั้งต่อองค์กรและต่อสังคมมากมาย ดังนี้ เลือกใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ จาก AT U Dental การสร้างสมดุลระหว่างสวัสดิการพนักงานและความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) เป็นสิ่งที่องค์กรไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยยกระดับความสุขของพนักงานแล้ว ยังช่วยสร้างชื่อเสียงและความไว้วางใจให้แก่องค์กรได้ในระยะยาว การใช้รถทันตกรรมเคลื่อนที่มาช่วยส่งเสริมสวัสดิการบริษัท และเป็นเครื่องมือในการดำเนินกิจกรรม CSR ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพและส่งผลในเชิงบวกต่อทุกฝ่าย บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่เป็นไอเดีย CSR ที่บริษัทหรือองค์กร สามารถซื้อ/เช่ารถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental เพื่อเข้าไปมอบบริการทางทันตกรรมให้แก่พนักงานถึงหน้าบริษัท และการมอบบริการให้แก่ประชาชนในการพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางทันตกรรมเหล่านี้ได้ โดยบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ของ AT U Dental มีทั้งทันตแพทย์มากประสบการณ์ ผู้ช่วยทันตแพทย์ อุปกรณ์ครบครัน พร้อมด้วยรถที่ผ่านการตรวจสอบและรองรับจากกระทรวงสาธารณสุข สามารถให้บริการทางทันตกรรมขั้นพื้นฐานได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถดูแลช่องปากด้วยตนเองได้ สำหรับองค์กรที่ต้องการมอบสวัสดิการดี ๆ ให้แก่พนักงานและประชาชนในชุมชนรอบข้าง สามารถเลือกใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental ได้แล้ววันนี้
โพสต์เมื่อ 10 มีนาคม 2568

วัฒนธรรมองค์กรกับสวัสดิการ ลงทุนยังไงให้ได้ใจพนักงานยุคใหม่

สร้างองค์กรที่แข็งแกร่งด้วยการให้ความสำคัญกับพนักงานในองค์กร พนักงานคือหัวใจสำคัญของทุกองค์กร หากเปรียบองค์กรเป็นเครื่องยนต์ พนักงานก็เปรียบเสมือนชิ้นส่วนที่ขับเคลื่อนเครื่องยนต์นั้นให้เดินหน้าต่อไปโดยไม่หยุดชะงัก การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์จึงเป็นสิ่งที่องค์กรทุกขนาดต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างความพึงพอใจและแรงจูงใจในการทำงานจึงกลายเป็นหัวข้อที่องค์กรต้องให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วน หนึ่งในประเด็นหลักที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจของพนักงาน คือ วัฒนธรรมองค์กร (Company culture) ซึ่งมีอิทธิพลโดยตรงต่อการทำงาน ความสัมพันธ์ในองค์กร และการตัดสินใจของพนักงานในการอยู่หรือออกจากองค์กร นอกจากนี้สวัสดิการพนักงานที่เหมาะสมและตอบโจทย์ ยังถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดปัญหาการลาออก และเพิ่มความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรได้อย่างยั่งยืน สวัสดิการพนักงาน ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายแต่คือ ‘การลงทุน’ สวัสดิการพนักงาน หมายถึงสิ่งที่องค์กรมอบให้แก่พนักงานนอกเหนือจากเงินเดือนหรือค่าจ้าง เช่น การประกันสุขภาพ วันลาพักร้อน การฝึกอบรมพัฒนาทักษะ และอื่นๆ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงานแต่ละช่วงวัย ในมุมมองของผู้บริหารหรือ HR หลายท่าน อาจคิดว่าจำนวนเงินที่เสียไปกับสิ่งเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว จำนวนเงินที่นำมาลงกับสวัสดิการพนักงานนั้นถือเป็นการลงทุน เนื่องจากองค์กรได้รับผลตอบแทนกลับคืนมาในรูปแบบของความพึงพอใจจากพนักงาน หากองค์กรมีการส่งมอบบริการขั้นพื้นฐานอย่างครบถ้วน รวมไปถึงการจัดเตรียมบริการอื่น ๆ ที่มีความแตกต่างจากปกติทั่วไปจนเหนือความคาดหมายของพนักงาน เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง และช่วยดึงดูดผู้ที่มีความสามารถและสร้างความพึงพอใจต่อการทำงานให้กับองค์กรมากขึ้น พนักงานจะรู้สึกว่าตนเองถูกใส่ใจและได้รับความสำคัญจากองค์กร จนเกิดแรงจูงใจและแรงผลักดันในการทำงาน ถือเป็นการลงทุนที่ช่วยจูงใจพนักงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดค่าใช้จ่ายทางอ้อม เช่น ค่าใช้จ่ายจากการลาออก สำหรับตัวอย่างสวัสดิการพนักงานด้านต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และองค์กรควรให้ความสำคัญ มีดังนี้ ด้านสุขภาพ สุขภาพของพนักงานเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก ๆ เพราะการเจ็บป่วยจะส่งผลโดยตรงกับการทำงานและกระทบถึงผลลัพธ์ของบริษัท ดังนั้นการมอบประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งโรคทั่วไปและโรคร้ายแรงสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลของพนักงาน รวมไปถึงการจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี การมอบบริการด้านสุขภาพในสถานที่ทำงาน เช่น บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ที่สามารถเข้ามาให้บริการทางทันตกรรมได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง หรือหาวันหยุดไปคลินิก และการมีโปรแกรมให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยา (Employee Assistance Program) เพื่อดูแลความสมดุลทางจิตใจของพนักงานที่อาจเผชิญปัญหาในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ด้านการเงิน ความมั่นคงทางการเงินของพนักงานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการทำงาน องค์กรสามารถมอบสวัสดิการด้านการเงินได้หลายรูปแบบ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) หรือการมอบโบนัสและเงินรางวัลตามผลงานเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน รวมถึงการจัดการมอบเงินช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน เช่น ค่ารักษาพยาบาลหรือเงินสนับสนุนค่าการศึกษาสำหรับบุตรพนักงานตามความเหมาะสม เป็นต้น ด้านวันหยุดและเวลาทำงาน การมีเวลาทำงานและวันหยุดที่ยืดหยุ่นช่วยสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้ดีขึ้น องค์กรสามารถมอบวันหยุดพักร้อนเพิ่มเติมตามอายุงาน หรือวันหยุดพิเศษในโอกาสสำคัญ เช่น วันเกิด นอกจากนี้การจัดนโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น เช่น การให้พนักงานสามารถเลือกเวลาทำงานได้ตามความเหมาะสม หรือนโยบายการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์พนักงานในยุคปัจจุบันที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการเวลาชีวิต ด้านการพัฒนาและการเรียนรู้ พนักงานที่มีโอกาสพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องย่อมเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าสำหรับองค์กร การจัดสรรผลประโยชน์ที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะจึงเป็นสิ่งจำเป็น เช่น การสนับสนุนค่าเรียนหรือคอร์สฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับงาน  ด้านการดูแลครอบครัว พนักงานที่มีครอบครัวต้องการความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกสบาย องค์กรสามารถสนับสนุนพนักงานได้โดยการมอบประกันสุขภาพที่ครอบคลุมถึงครอบครัวพนักงาน หรือการช่วยเหลือค่าเล่าเรียนบุตรของพนักงาน  ด้านการเดินทางและการคมนาคม การเดินทางที่สะดวกและลดค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของพนักงานได้ เช่น การจัดให้มีบริการรถรับส่งพนักงานในเส้นทางที่สำคัญ การสนับสนุนค่าน้ำมันหรือค่าเดินทางสำหรับพนักงานที่ต้องใช้รถส่วนตัว หรือการช่วยเหลือด้านค่าที่พักสำหรับพนักงานที่ต้องปฏิบัติงานนอกพื้นที่  ด้านความบันเทิงและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม การสร้างความสุขและกำลังใจให้พนักงานผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การมอบส่วนลดสินค้าและบริการจากพันธมิตรขององค์กร การจัดกิจกรรมนันทนาการ การจัดให้มีพื้นที่ฟิตเนส คลาสออกกำลังกาย หรือการมอบบัตรกำนัลในโอกาสพิเศษ  วัฒนธรรมองค์กร พื้นฐานของการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี วัฒนธรรมองค์กร คือ วิถีชีวิต แนวคิด กฎเกณฑ์ และค่านิยมที่องค์กรยึดถือและปฏิบัติในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงพนักงานทั่วไป วัฒนธรรมองค์กรไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่เขียนไว้ในคู่มือบริษัท แต่เป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาในพฤติกรรมการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้พนักงานและบุคลากรทั้งองค์กรรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน เสริมสร้างคุณค่าเสมือนกับว่าตนเองมีบทบาทหน้าที่สำคัญกับองค์กร จนกลายเป็นแรงกระตุ้นให้ต้องการทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ให้แก่ตนเองและองค์กร การมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้องค์กรเจริญเติบโตและมีความมั่นคงในระยะยาว มาดูกันว่ารูปแบบของวัฒนธรรมองค์กร มีอะไรบ้าง การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในที่ทำงาน การเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร หรือการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ เช่น การระดมความคิด การประชุมเพื่อพัฒนางาน หรือกิจกรรมสานสัมพันธ์ในทีม ช่วยสร้างความรู้สึกว่าพนักงานเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอย่างแท้จริง การสื่อสารที่โปร่งใส การสื่อสารที่เปิดเผยและตรงไปตรงมาในทุกระดับขององค์กรช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างผู้บริหารและพนักงาน เช่น การแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายขององค์กร การเปลี่ยนแปลงในนโยบาย หรือความคืบหน้าในการดำเนินโครงการต่างๆ การให้คุณค่าแก่พนักงานในทุกระดับ การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียมและให้ความสำคัญต่อความคิดเห็นไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด สร้างความรู้สึกว่าองค์กรเห็นคุณค่าของพนักงานอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมงานและผู้บริหาร ความเชื่อมโยงของวัฒนธรรมองค์กรและสวัสดิการพนักงาน วัฒนธรรมองค์กรและสวัสดิการพนักงานถือเป็นสองปัจจัยที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน วัฒนธรรมองค์กรที่ดีจะช่วยกำหนดแนวทางการออกแบบบริการเหล่านี้ให้ตอบโจทย์พนักงาน เช่น องค์กรที่เน้นความใส่ใจด้านสุขภาพ อาจมอบบริการการตรวจสุขภาพประจำปี หรือองค์กรที่สนับสนุนการพัฒนาทักษะ อาจมีทุนการศึกษาสำหรับพนักงานและครอบครัว เมื่อทั้ง 2 สิ่งนี้มีการเสริมสร้างกันอย่างแข็งแกร่ง จนสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่พนักงานในองค์กรได้ จะส่งผลให้องค์กรเกิดความมั่นคงได้ในระยะยาว สร้างสรรค์วัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ด้วยสวัสดิการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental สวัสดิการและวัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้ องค์กรที่ต้องการสร้างความมั่นคงในระยะยาว ต้องให้ความสำคัญทั้งสองด้านอย่างสมดุล โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ความคาดหวังของพนักงานมีความหลากหลาย การนำเสนอบริการที่เหมาะสม เช่น บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้พนักงานได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากได้ง่ายขึ้นในสถานที่ทำงาน โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการลงทุนที่คุ้มค่า การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและการให้สวัสดิการที่ตอบโจทย์ ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาพนักงานเก่งให้อยู่กับองค์กร แต่ยังช่วยสร้างความมั่นคงและความน่าเชื่อถือให้แก่องค์กรในสายตาของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระยะยาว เมื่อมองสวัสดิการเป็นการลงทุน องค์กรไม่เพียงแต่ได้รับผลตอบแทนมาเป็นกำลังแรงงานที่มีคุณภาพ แต่ยังได้พนักงานที่พร้อมจะทุ่มเทให้แก่องค์กรในระยะยาวด้วยเช่นกัน บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ เป็นหนึ่งในสวัสดิการพนักงานที่มีความเกี่ยวกับบริการพื้นฐานทางด้านสุขภาพ ที่มักถูกละเลยและไม่ได้ให้ความสำคัญมากเท่าที่ควร ในปัจจุบันบริการนี้ยังคงมีความแปลกใหม่และยังไม่มีการนำมาใช้งานมากเท่าไรนัก ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับองค์กรที่ต้องการสร้างความแตกต่าง และทำให้พนักงานรู้สึกได้รับความสำคัญในการดูแลสุขภาพ ด้วยการเลือกใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental ที่มาพร้อมกับทันตแพทย์ที่มีใบรับรอง
โพสต์เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2568

7 สวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจและควรให้ความสำคัญ อัพเดต 2025

7 สวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจและองค์กรควรให้ความสำคัญ สวัสดิการพนักงานจัดเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ช่วยในการเพิ่มแรงจูงใจของพนักงานในองค์กร ให้สามารถจดจ่อกับหน้าที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีส่วนช่วยในการลดอัตรา Turnover Rate ของพนักงานในองค์กรได้เป็นอย่างดี องค์กรจึงควรหันมาใส่ใจในการมอบสวัสดิการพนักงานดี ๆ เพื่อรักษาพนักงานเก่าและดึงดูดพนักงานใหม่ สำหรับ 7 สวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจ ได้รับความนิยมในหลายองค์กร มีดังนี้ การปรับขึ้นเงินเดือนประจำปีและการมอบโบนัสให้แก่พนักงาน โดยมีการพิจารณาจากประสิทธิภาพการทำงานและผลการทำงาน จะช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการทำส่วนงานที่ตนเองรับผิดชอบให้ออกมาดี ถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการพนักงานที่ได้รับความนิยม เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจให้พนักงานสามารถปรับการทำงานของตนเองให้ดีขึ้นในปีถัด ๆ ไปได้เป็นอย่างดี การทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ถือเป็นปัญหาใหญ่ในหลาย ๆ องค์กร เนื่องจากพนักงานหลายคนมักรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม ไม่คุ้มค่า และอาจเกิดการหมดไฟจากการทำงานล่วงเวลาจนเคยชิน การที่บริษัทเห็นความสำคัญและมีนโยบายในการมอบค่าตอบแทนหรือค่าล่วงเวลาให้แก่พนักงานเหล่านี้ จะช่วยสร้างแรงจูงใจในการทำงาน และทำให้พนักงานรู้สึกไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ  ประกันกลุ่มสุขภาพคือ สวัสดิการที่นายจ้างจัดให้กับพนักงานในองค์กร โดยมักเป็นประกันแบบกลุ่ม ซึ่งหมายความว่าพนักงานทั้งหมดหรือกลุ่มพนักงานในบริษัทจะได้รับการคุ้มครองภายใต้แผนประกันเดียวกัน ซึ่งเป็นสวัสดิการเพิ่มเติมจากการประกันสังคมหรือเงินเดือนที่ได้รับ ประกันกลุ่มสุขภาพมักครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ต่าง ๆ ทั้งรูปแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อพนักงานเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ กองทุนที่จัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสะสมเงินไว้เป็นเงินออมระยะยาวสำหรับพนักงานเมื่อลาออกจากงาน เกษียณอายุ หรือในกรณีเสียชีวิต กองทุนสำรองเลี้ยงชีพช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับพนักงานในระยะยาว โดยเงินที่สะสมในกองทุนจะมาจากสองส่วน คือ ส่วนที่พนักงานสะสมและส่วนที่นายจ้างสมทบ เป็นสวัสดิการพนักงานที่ช่วยสร้างความรู้สึกมั่นคงให้แก่พนักงานในอนาคต การเอาใจใส่และให้ความสำคัญต่อตัวพนักงานเป็นสิ่งที่องค์กรส่วนใหญ่ควรได้ความสำคัญ แต่องค์กรที่มีการคำนึงไปถึงบุคคลในครอบครัวของพนักงานนั้นอาจยังไม่มีมากในปัจจุบัน สวัสดิการพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือบุคคลในครอบครัว เช่น การมอบค่าเล่าเรียนให้บุตร การช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล การมอบเงินค่าทำขวัญคลอด รวมไปถึงการช่วยเหลือกรณีมีการเสียชีวิตของบุคคลในครอบครัว ถือเป็นสวัสดิการพนักงานที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและการมีน้ำใจขององค์กร โดยปกติพนักงานทุกคนควรได้รับวันหยุดและวันลาขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่ในปัจจุบันมีหลายองค์กรที่ได้มอบวันหยุดพิเศษอื่น ๆ ให้แก่พนักงานเพื่อให้เกิดความน่าสนใจและดึงดูดใจแก่พนักงาน เช่น วันลาในเดือนเกิด วันลาสำหรับการรับปริญญา ปัจจุบันการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งที่ถูกละเลย โดยเฉพาะพนักงานโรงงานและนิคมอุตสาหกรรม ด้วยสถานที่ห่างไกลตัวเมืองเนื่องจากปัญหามลพิษและมลภาวะจากโรงงาน พนักงานส่วนใหญ่จึงอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ทางโรงงานจัดเตรียมไว้ให้ ปัญหาที่พบคือ พนักงานขาดการเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ จนส่งผลให้เกิดปัญหากระทบต่องาน สวัสดิการพนักงานโรงงานจากองค์กร ที่น่าสนใจและสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้คือ บริการทางทันตกรรมรูปแบบใหม่อย่างรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ด้วยลักษณะของบริการที่มีรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปตรวจสุขภาพช่องปากและให้บริการทางทันตกรรมแก่พนักงานถึงหน้าโรงงาน ถือเป็นรูปแบบของสวัสดิการพนักงานที่ได้รับความสนใจและเสียงตอบรับที่ดีทั้งจากองค์กรและพนักงานที่เข้ารับบริการ เนื่องจากความสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง และสามารถกลับไปทำงานต่อได้ทันที บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จึงถือเป็นรูปแบบของการให้บริการที่ตอบโจทย์ปัญหาของเหล่าพนักงานโรงงานได้อย่างตรงจุด และเสริมสร้างสุขภาพช่องปากที่ดีให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ ความสำคัญของสวัสดิการพนักงานที่มีความครอบคลุมทุกด้าน จากการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความต้องการของพนักงานตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการตระหนักรู้ถึงสิทธิสวัสดิการพนักงาน สิทธิขั้นพื้นฐาน ผลตอบแทนที่ยุติธรรม รวมไปถึงตัวเลือกของสวัสดิการพนักงานจากหลายองค์กร ที่ต้องการเพิ่มแรงจูงใจและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับพนักงาน ส่งผลให้ในปัจจุบันสวัสดิการพนักงานเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มักถูกนำมาพิจารณาร่วมด้วยในการตัดสินใจเลือกทำงานหรือแม้กระทั่งการลาออกจากงาน หากองค์กรมีสวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจ ก็จะช่วยรักษาทั้งพนักงานเก่าและดึงดูดพนักงานใหม่ให้เข้ามาร่วมงาน สวัสดิการทางทันตกรรมเป็นหนึ่งในสวัสดิการพนักงานที่มีความสำคัญ และมีผลต่อแรงจูงใจในการทำงานของพนักงาน  บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ จึงกลายมาเป็นทางเลือกของสวัสดิการพนักงานโรงงานที่หลายองค์กรเลือกใช้ เพื่อเช่ารถทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับการให้บริการทางทันตกรรมแก่พนักงานทุกคนอย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องเดินทาง AT U Dental เห็นความสำคัญของการอำนวยความสะดวกในการให้บริการทางทันตกรรม จึงมีบริการซื้อและเช่า รถทันตกรรมเคลื่อนที่ สำหรับองค์กรที่ต้องการมอบสวัสดิการพนักงานที่ดีให้แก่บุคลากรของตนเอง สามารถซื้อหรือเช่ารถทันตกรรมเพื่อนำส่งบริการทางทันตกรรมถึงที่ พร้อมด้วยทันตแพทย์และผู้ช่วยทันตแพทย์มากประสบการณ์ ไม่เพียงแต่การให้บริการตรวจฟันเท่านั้น แต่ยังมีการให้คำแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปาก เพื่อการดูแลสุขภาพฟันที่ดีในระยะยาวของคนไข้ทุกคน
โพสต์เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2568

เตรียมก่อนใคร! สวัสดิการยอดฮิตที่พนักงานควรมีในปี 2025

ในยุคที่การทำงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สวัสดิการพนักงาน ไม่ใช่แค่ “โบนัส” หรือ “ค่ารักษาพยาบาล” อีกต่อไป แต่ควรครอบคลุม สุขภาพกาย สุขภาพใจ และคุณภาพชีวิต ของพนักงานมากขึ้น องค์กรที่ต้องการดึงดูดและรักษาพนักงานเก่ง ๆ ควรปรับตัวให้ทันเทรนด์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะด้านสุขภาพช่องปาก ซึ่งมีผลต่อทั้งบุคลิกภาพและความมั่นใจของพนักงาน ทำไมสวัสดิการที่ดีจึงสำคัญ? การมีสวัสดิการที่ดี ไม่ใช่แค่ “ค่าตอบแทน” แต่คือการสร้างคุณค่าให้พนักงานรู้สึกว่า องค์กรใส่ใจและดูแลพวกเขา ส่งผลให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน มีแรงจูงใจ และพร้อมทุ่มเทเพื่อองค์กรในระยะยาว องค์กรที่ต้องการสร้าง ทีมงานที่มีคุณภาพ และให้พนักงานมีสุขภาพฟันที่ดีโดยไม่ต้องเสียเวลานอกงาน AT U DENTAL Mobile Clinic เป็นทางเลือกที่ช่วยให้พนักงานเข้าถึงบริการด้านทันตกรรมได้ง่ายขึ้น พร้อมรอยยิ้มที่มั่นใจไปกับการทำงาน! 😊🦷
โพสต์เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2568

ดูแลสุขภาพช่องปากด้วยสิทธิประกันสังคมและประกันกลุ่ม – สิทธิที่คุณไม่ควรมองข้าม!

สุขภาพช่องปากเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่า ประกันสังคมและประกันกลุ่ม สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงการรักษาทางทันตกรรมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก? สิทธิเหล่านี้ครอบคลุมบริการทันตกรรมพื้นฐานที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพฟันที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของโรคทางช่องปาก และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย สิทธิประกันสังคมสำหรับการรักษาทางทันตกรรม ผู้ประกันตนที่มีสิทธิประกันสังคมสามารถใช้สิทธิในการดูแลสุขภาพฟันได้ โดยสำนักงานประกันสังคมให้ความคุ้มครองค่ารักษาทางทันตกรรม วงเงินสูงสุด 900 บาทต่อปี โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งรวมถึงการ อุดฟัน, ถอนฟัน, ผ่าฟันคุด และขูดหินปูน สิทธิ์นี้สามารถใช้ได้ที่คลินิกและโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมสามารถใช้สิทธิการรักษาฟันได้ วงเงินสูงสุด 900 บาทต่อปี ซึ่งครอบคลุมการรักษาทางทันตกรรมพื้นฐาน ได้แก่ 👉 ไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงใช้บัตรประชาชนยืนยันสิทธิ์กับคลินิกที่เข้าร่วมโครงการ ประกันกลุ่ม – สิทธิพิเศษที่มากกว่าประกันสังคม สำหรับพนักงานที่ได้รับสิทธิ ประกันกลุ่มจากบริษัท มักจะมีความคุ้มครองที่มากกว่าประกันสังคม ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่บริษัททำไว้กับบริษัทประกัน ซึ่งอาจครอบคลุมถึง การทำฟันปลอม, การรักษารากฟัน, ครอบฟัน หรือการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ดังนั้น ควรตรวจสอบรายละเอียดสิทธิ์ของตนเองก่อนเข้ารับการรักษา สำหรับพนักงานบริษัทที่มี ประกันกลุ่ม นอกจากสิทธิประกันสังคมแล้ว ประกันกลุ่มมักมีความคุ้มครองที่มากกว่า เช่น 💡 ควรเช็กกรมธรรม์ของตนเอง ว่าครอบคลุมค่ารักษาฟันประเภทใดบ้าง เพื่อใช้สิทธิให้เกิดประโยชน์สูงสุด ข้อดีของการใช้สิทธิประกันสังคมและประกันกลุ่มในการทำฟัน AT U Dental – ดูแลรอยยิ้มของคุณ ด้วยสิทธิที่คุณมี ที่ AT U Dental เราให้บริการด้านทันตกรรมที่ครอบคลุม พร้อมรองรับการใช้ สิทธิประกันสังคมและประกันกลุ่ม โดยคุณสามารถเข้ารับบริการ ขูดหินปูน, อุดฟัน, ถอนฟัน, ผ่าฟันคุด และบริการอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการรักษาที่มีคุณภาพ ใช้สิทธิ์ง่าย ๆ แค่พกบัตรประชาชน! หลายคนอาจกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนการใช้สิทธิประกันสังคมและประกันกลุ่ม แต่ที่ AT U Dental เราทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เพียงคุณนำ บัตรประชาชน มาแสดง ก็สามารถใช้สิทธิได้ทันทีโดยไม่ต้องสำรองจ่าย (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันที่คุณมี) สุขภาพช่องปากที่ดีไม่ใช่เรื่องไกลตัว อย่าปล่อยให้ปัญหาฟันส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคุณ ใช้สิทธิประกันสังคมและประกันกลุ่มให้คุ้มค่า และให้ AT U Dental ดูแลรอยยิ้มของคุณ!
โพสต์เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2568