About Us

บริษัท แอท ยู เดนทัล จำกัด ก่อตั้งขึ้นจากวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการด้านทันตกรรมที่สามารถเข้าถึงได้สะดวกและตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการในทุกสถานการณ์ โดยมี ทพญ.นัททิกา วรรณศรีจันทร์ (คุณหมอแนท, COO) ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ในปี พ.ศ. 2561 เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง คุณหมอแนทได้เริ่มต้นเส้นทางอาชีพด้วยการเป็นทันตแพทย์พาร์ทไทม์ในคลินิกต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในด้านการวินิจฉัยและปฏิบัติหัตถการ รวมถึงการพัฒนาทักษะเพิ่มเติมจากหลักสูตรเฉพาะทาง เช่น การฝังรากฟันเทียม (Implant), การจัดฟันแบบโลหะ และ การจัดฟันใส (Clear Aligners)

ในปี พ.ศ. 2563 คุณหมอแนทได้เปิด คลินิกทันตกรรมแนททิส เป็นของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยต้องเผชิญกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจด้านสุขภาพ รวมถึงบริการทันตกรรม เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดทำให้ผู้รับบริการเข้าถึงคลินิกได้ยากลำบาก

ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว ทพญ.นัททิกา วรรณศรีจันทร์ ได้เห็นโอกาสในการขยายการเข้าถึงการรักษาทางทันตกรรมร่วมกับ คุณธัชวีร์ สุวรรณปัญญา (CEO) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและการบริหารธุรกิจที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี คุณธัชวีร์จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท แอท ลิฟต์ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับระบบลิฟต์และระบบจอดรถอัตโนมัติ

จากการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ทางธุรกิจของ ทั้งสองผู้บริหาร ทำให้เกิดแนวคิดใหม่ในการพัฒนารูปแบบบริการทันตกรรมที่มุ่งเน้นการเข้าถึงและความสะดวกสบายของผู้ป่วย ผ่านการใช้ รถทันตกรรมเคลื่อนที่ (Mobile Dental Unit) ซึ่งช่วยให้บริการทันตกรรมไม่ถูกจำกัดเฉพาะในสถานที่ตั้งคลินิก และลดข้อจำกัดในช่วงสถานการณ์โควิด-19

ด้วยเป้าหมายร่วมกันในการสร้างสรรค์บริการที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้ง่าย บริษัท แอท ยู เดนทัล จำกัด จึงก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 โดยดำเนินธุรกิจด้านทันตกรรมครบวงจร ทั้งในรูปแบบของ คลินิกทันตกรรมและ รถทันตกรรมเคลื่อนที่ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีคลินิกทันตกรรมจำนวน 5 สาขา และให้บริการด้วย รถทันตกรรมเคลื่อนที่ 4 คันนอกจากนี้ ยังมี เครือข่ายคลินิกพาร์ทเนอร์กว่า 25 แห่งทั่วประเทศ ที่ร่วมให้บริการในรูปแบบรถทันตกรรมเคลื่อนที่

โดยความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมด้านบริการทางทันตกรรม บริษัท แอท ยู เดนทัล จำกัด ได้สร้างประสบการณ์ใหม่ในการรักษาฟันที่เน้นความสะดวกสบายและคุณภาพสูงสุด จนได้รับความไว้วางใจและการยอมรับอย่างแพร่หลายในวงการทันตกรรมไทย

ใช้สิทธิประกันสังคมทำฟัน 900 บาทอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด?

“ผู้ประกันตนมีสิทธิทำฟันอะไรบ้าง? บทความนี้สรุปทุกเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับสิทธิทำฟัน 900 บาท/ปีของประกันสังคมที่ AT U DENTAL CLINIC ตั้งแต่การขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ไปจนถึงการเบิกค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด เพื่อให้คุณใช้สิทธิได้อย่างคุ้มค่า ไม่ต้องสำรองจ่าย” สำหรับผู้ประกันตนทุกคนตามมาตรา 33 และ 39 สิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมคือหนึ่งในสวัสดิการที่สำคัญที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยสิทธิหลักที่หลายคนทราบกันดีคือสิทธิทำฟันประกันสังคมวงเงินไม่เกิน 900 บาทต่อปี แต่หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยว่าสิทธินี้ครอบคลุมอะไรบ้าง และควรใช้สิทธิ์อย่างไรให้ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุด สิทธิประโยชน์ทำฟัน 900 บาท/ปี ครอบคลุมอะไรบ้าง? สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดให้สิทธิประโยชน์ 900 บาทต่อปี ครอบคลุมการรักษาทางทันตกรรมขั้นพื้นฐาน 4 ประเภทหลัก ดังนี้: ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิ์เหล่านี้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดปี แต่ค่าใช้จ่ายรวมต้องไม่เกิน 900 บาท ไม่ต้องสำรองจ่าย ที่ AT U DENTAL CLINIC ในปัจจุบัน ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการทำฟันได้ที่คลินิกและโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการกับสำนักงานประกันสังคม ที่ AT U DENTAL CLINIC ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิ์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย นั่นหมายความว่าหากค่าใช้จ่ายในการรักษาไม่เกิน 900 บาท คุณจะไม่ต้องจ่ายเงินเลย แต่หากค่าใช้จ่ายเกินวงเงิน เช่น ขูดหินปูนราคา 1,200 บาท คุณก็แค่จ่ายส่วนต่าง 300 บาทให้แก่คลินิกเท่านั้น ขั้นตอนการใช้สิทธิ์ง่ายๆ ที่คลินิกของเรา: ฟันปลอมก็ใช้สิทธิ์ได้นะ แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม นอกเหนือจากสิทธิ 900 บาทแล้ว ประกันสังคมยังมีสิทธิ์เบิกค่าทำฟันปลอมชนิดถอดได้ซึ่งมีวงเงินและเงื่อนไขที่แตกต่างกันดังนี้: ข้อควรรู้: สิทธิ์ทำฟันปลอมจะเบิกได้ทุกๆ 5 ปี และผู้ประกันตนจะต้องสำรองจ่ายไปก่อน แล้วจึงนำเอกสารไปยื่นเบิกเงินคืนที่สำนักงานประกันสังคมในภายหลัง สิทธิ์ที่ยังไม่ครอบคลุม เป็นเรื่องที่ควรรู้ว่ามีหลายการรักษาที่ยังไม่ครอบคลุมในสิทธิประกันสังคม 900 บาท ได้แก่: การทำความเข้าใจสิทธิประโยชน์เหล่านี้อย่างถี่ถ้วนจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้สิทธิที่ได้รับอย่างคุ้มค่าที่สุดที่ AT U DENTAL CLINIC ซึ่งพร้อมให้บริการด้วยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย คลินิกในเครือที่รองรับสิทธิประกันสังคม คุณสามารถเข้ารับบริการทำฟันโดยใช้สิทธิประกันสังคมที่ AT U DENTAL CLINIC ได้ทั้ง 4 สาขาที่ร่วมโครงการ ดังนี้: เพื่อความสะดวกในการเดินทาง คุณสามารถเลือกไปใช้บริการที่สาขาใกล้บ้านหรือที่ทำงานได้เลยค่ะ FacebookFacebookXXLINELine
โพสต์เมื่อ 20 สิงหาคม 2568

สุขภาพเหงือก: รากฐานที่ถูกละเลย ทำไมการดูแลจึงสำคัญ? สาเหตุ วิธีรักษา และการป้องกันเชิงลึก

ทำไมการดูแลจึงสำคัญ? สาเหตุ วิธีรักษา และการป้องกันเชิงลึก “เจาะลึกทุกแง่มุมของสุขภาพเหงือก: ทำไมการดูแลเหงือกจึงสำคัญกว่าที่คิด? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจสาเหตุของโรคเหงือก อาการที่ควรระวัง และแนวทางการรักษาอย่างละเอียด ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงขั้นรุนแรง พร้อมแนะนำวิธีป้องกันที่ถูกหลักทันตกรรม เพื่อสร้างรอยยิ้มที่แข็งแรงและยั่งยืน” ในโลกของการดูแลสุขภาพช่องปาก หลายคนมักจะให้ความสำคัญกับฟันเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความขาวสะอาด ความสวยงาม หรือการจัดเรียง แต่สิ่งหนึ่งที่มักถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย คือ “เหงือก” ซึ่งเปรียบเสมือนรากฐานที่คอยยึดฟันให้อยู่ได้อย่างมั่นคง หากปราศจากรากฐานที่แข็งแรงแล้ว ฟันที่ดูสวยงามภายนอกก็ไม่สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน โรคเหงือกจึงนับเป็นภัยเงียบที่ร้ายกาจ เพราะมันสามารถทำลายเนื้อเยื่อและกระดูกที่รองรับฟันได้อย่างเงียบๆ ในระยะเริ่มต้นโดยไม่แสดงอาการเจ็บปวด จนเมื่อรู้ตัวอีกทีก็อาจสายเกินไป บทความนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นคู่มือที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของสุขภาพเหงือก เพื่อให้คุณเข้าใจและหันมาให้ความสำคัญกับ “รากฐาน” ของรอยยิ้มอย่างแท้จริง ทำไมการดูแลสุขภาพเหงือกจึงสำคัญกว่าที่คุณคิด? การมีสุขภาพเหงือกที่ดีนั้นมีผลกระทบที่กว้างขวางกว่าแค่ความสวยงาม แต่ยังเชื่อมโยงกับสุขภาพโดยรวมของเราอย่างแยกไม่ออก 1. ป้องกันฟันโยกและฟันหลุด: ความเสียหายที่ถอยหลังไม่ได้ หน้าที่หลักของเหงือกคือการทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันและยึดฟันให้ติดอยู่กับกระดูกขากรรไกรอย่างมั่นคง เมื่อคราบแบคทีเรียและหินปูนสะสมตัวอยู่ใต้ขอบเหงือกเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation) ซึ่งกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าทำลายเนื้อเยื่อเหงือกและกระดูกที่รองรับฟัน ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ “เหงือกร่น” (Gum Recession) และ “กระดูกละลาย” (Bone Loss) เมื่อกระดูกรองรับฟันลดน้อยลง ฟันก็จะขาดการยึดเกาะที่แข็งแรง และเริ่มมีอาการโยก ซึ่งในที่สุดก็จะนำไปสู่การสูญเสียฟันอย่างถาวรในที่สุด ซึ่งเป็นความเสียหายที่รักษาได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก 2. ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม: เหงือกคือดัชนีชี้วัดสุขภาพทั้งร่างกาย วิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ได้ค้นพบความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่างโรคเหงือกกับโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้อง ดังนี้: 3. ลดโอกาสการติดเชื้อ: สร้างเกราะป้องกันให้ร่างกาย เหงือกที่อักเสบคือประตูเปิดให้แบคทีเรียจากช่องปากเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายขึ้น ภาวะนี้เรียกว่า “Bacteremia” ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในอวัยวะสำคัญต่างๆ ได้ การรักษาให้เหงือกแข็งแรงจึงเปรียบเสมือนการสร้างเกราะป้องกันด่านแรกที่สำคัญให้กับร่างกาย 4. เพื่อความมั่นใจในรอยยิ้ม: สุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์ นอกจากผลกระทบทางกายภาพแล้ว สุขภาพเหงือกยังส่งผลต่อสุขภาพจิตและภาพลักษณ์ภายนอกโดยตรง ปัญหาต่างๆ เช่น เหงือกบวมแดง มีเลือดออกง่าย หรือมีกลิ่นปากเรื้อรัง สามารถทำลายความมั่นใจในการยิ้มและพูดคุยกับผู้อื่นได้อย่างสิ้นเชิง ในทางกลับกัน เมื่อเหงือกแข็งแรง สุขภาพดี เราก็จะกล้ายิ้มอย่างเต็มที่ ซึ่งส่งผลดีต่อบุคลิกภาพและความสัมพันธ์ในสังคม สาเหตุหลักของโรคเหงือก สาเหตุของโรคเหงือกนั้นเริ่มต้นจากสิ่งเดียวกัน นั่นคือการสะสมของ “คราบจุลินทรีย์” (Plaque) และเมื่อปล่อยทิ้งไว้ก็จะกลายเป็น “หินปูน” (Calculus) ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ควรระวัง: อาการของโรคเหงือกที่ควรสังเกตอย่างละเอียด โรคเหงือกแบ่งออกเป็น 2 ระยะหลัก ซึ่งอาการจะแตกต่างกันไปตามความรุนแรง 1. โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis): ระยะเริ่มต้นและยังสามารถรักษาให้หายได้ หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องในระยะนี้ อาการสามารถหายเป็นปกติได้ และเหงือกจะกลับมามีสุขภาพดีดังเดิม 2. โรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis): ระยะรุนแรงที่ส่งผลถาวร เมื่อโรคเหงือกอักเสบลุกลามโดยไม่ได้รับการรักษา จะกลายเป็นโรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งจะเริ่มทำลายกระดูกและเนื้อเยื่อที่รองรับฟันอย่างถาวร โรคนี้แบ่งได้เป็น 3 ระดับ: อาการอื่นๆ ที่อาจพบในโรคปริทันต์อักเสบ: หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบทันตแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม วิธีรักษาและป้องกันโรคเหงือกอย่างละเอียด การรักษาโรคเหงือกโดยทันตแพทย์: การป้องกันที่ดีที่สุดคือการดูแลตัวเองทุกวัน: ถาม-ตอบ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคเหงือก เหงือกแข็งแรง นำมาซึ่งฟันและสุขภาพที่แข็งแรง การลงทุนในสุขภาพเหงือกคือการลงทุนที่ชาญฉลาดที่สุดเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากและสุขภาพโดยรวมของคุณในระยะยาว อย่าปล่อยให้ปัญหาเล็กๆ อย่างเหงือกบวมแดงกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาที่ซับซ้อนและรุนแรงในอนาคต สำหรับองค์กรที่ต้องการส่งเสริมสุขภาพพนักงานอย่างแท้จริง AT U DENTAL BUS พร้อมที่จะเป็นพันธมิตรในการนำบริการทันตกรรมครบวงจรไปให้บริการถึงที่ทำงานของคุณ เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพเหงือกและฟันได้อย่างสะดวกสบายและไม่ต้องเสียเวลาลางานอีกต่อไป เพราะการป้องกันคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด สนใจปรึกษาหรือวางแผนบริการสำหรับองค์กรของคุณได้เลย FacebookFacebookXXLINELine
โพสต์เมื่อ 18 สิงหาคม 2568

10 เหตุผลที่การดูแลสุขภาพช่องปากคือสวัสดิการพนักงานที่คุ้มค่าที่สุดขององค์กร

“AT U DENTAL เผย 10 เหตุผลที่การดูแลสุขภาพช่องปากพนักงานด้วยบริการทำฟันถึงที่คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดขององค์กรยุคใหม่ ช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความผูกพันที่ยั่งยืน ศึกษาแนวทางปฏิบัติจากงานวิจัยและสถิติเพื่อยกระดับสวัสดิการพนักงานของคุณ” ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันเพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่ซับซ้อนกว่าเดิม จากที่เคยเป็นการต่อสู้ด้วยค่าตอบแทนที่สูงเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันนี้แนวคิดได้เปลี่ยนไปสู่การให้ความสำคัญกับปัจจัยที่ไม่ใช่ตัวเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวัสดิการพนักงานที่สะท้อนถึงความห่วงใยและคุณภาพชีวิตของคนทำงาน การมอบสวัสดิการพนักงานที่ดีจึงไม่ได้เป็นแค่ค่าใช้จ่าย แต่คือการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดขององค์กร นั่นก็คือ “พนักงาน” AT U DENTAL ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมทันตกรรมเคลื่อนที่ เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างลึกซึ้ง และได้พัฒนา AT U DENTAL BUS หรือรถทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อเป็นโซลูชันที่ทรงประสิทธิภาพในการช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถยกระดับสวัสดิการพนักงานด้านทันตกรรมได้อย่างไร้รอยต่อ บทความนี้จะนำเสนอ 10 เหตุผลหลักที่ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในการดูแลสุขภาพช่องปากของพนักงานถึงที่ทำงาน ไม่ใช่แค่เรื่องของความห่วงใย แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมขององค์กรในระยะยาว 1. ยกระดับ สวัสดิการพนักงาน ให้เหนือกว่าคู่แข่ง: สร้างความแตกต่างที่ดึงดูดใจ ในปัจจุบัน องค์กรส่วนใหญ่ยังคงมีสวัสดิการพนักงานด้านทันตกรรมในรูปแบบเดิม คือการมอบสิทธิ์ประกันสังคมซึ่งมีข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่ายและขั้นตอนการเบิกจ่าย แต่ด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่เข้าถึงบริษัทได้โดยตรง องค์กรจะสามารถนำเสนอสวัสดิการพนักงานที่แตกต่างและโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดในสายตาของผู้สมัครงานและพนักงานปัจจุบัน การให้บริการถึงที่ทำงานช่วยลดภาระด้านเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของพนักงาน ทำให้เกิดภาพลักษณ์ขององค์กรที่เป็นผู้นำและพร้อมลงทุนเพื่อบุคลากรอย่างแท้จริง จากงานวิจัยของ Mahidol University และ Srinakharinwirot University พบว่าสวัสดิการพนักงานเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญต่อความผูกพันองค์กร ยิ่งสวัสดิการพนักงานมีความพิเศษและตอบโจทย์ชีวิตพนักงานมากเท่าไร ความผูกพันที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น การมีสวัสดิการพนักงานที่โดดเด่นยังช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการสรรหาบุคลากร ทำให้องค์กรสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ลดการลาป่วยและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: สุขภาพกายดีส่งผลต่อประสิทธิภาพงาน ปัญหาสุขภาพช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดฟัน เหงือกอักเสบ หรืออาการเสียวฟัน ไม่เพียงแต่สร้างความไม่สบายกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อสมาธิและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานด้วย จากข้อมูลของกรมอนามัย พบว่าปัญหาฟันผุและโรคเหงือกเป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยทำงาน การที่พนักงานต้องลาหยุดงานเพื่อไปพบทันตแพทย์หรือต้องทำงานในขณะที่มีอาการปวดฟัน จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอย่างมาก (Presenteeism) การนำ AT U DENTAL BUS เข้าไปให้บริการถึงที่ทำงานช่วยให้พนักงานสามารถเข้ารับการรักษาเบื้องต้นได้ทันท่วงที ลดโอกาสในการลาป่วยหรือทำงานแบบไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีต่อผลผลิตโดยรวมขององค์กรในที่สุด และนับเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการพนักงานที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด จากรายงานวิจัยหลายฉบับระบุว่า สุขภาพกายและสุขภาพใจของพนักงานส่งผลโดยตรงต่อ Productivity ขององค์กร และการลงทุนในสวัสดิการพนักงานด้านสุขภาพจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว 3. ประหยัดค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็น: ลดภาระให้องค์กรอย่างเป็นรูปธรรม แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้จ่ายค่าใช้จ่ายโดยตรงสำหรับบริการทำฟัน แต่การที่พนักงานต้องลาหยุดเพื่อไปพบทันตแพทย์ย่อมก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงมหาศาล ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่หลายองค์กรอาจมองข้ามไป เช่น ค่าจ้างที่ยังต้องจ่ายในขณะที่พนักงานไม่ได้ทำงาน หรือการหยุดชะงักของกระบวนการทำงานที่ต้องใช้พนักงานคนนั้น และอาจรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานชั่วคราวมาทำงานแทน การให้บริการทำฟันถึงที่ช่วยขจัดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ AT U DENTAL BUS ยังสามารถบริหารจัดการสิทธิ์ประกันสังคมสำหรับพนักงานได้อย่างราบรื่น ทำให้พนักงานไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน และองค์กรไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการจัดกิจกรรมนี้เลย เสมือนเป็นการยกระดับสวัสดิการพนักงานให้กับพนักงานโดยไม่กระทบงบประมาณของบริษัท ซึ่งนับเป็นการจัดการสวัสดิการพนักงานที่ชาญฉลาดและช่วยลดต้นทุนแฝงให้กับองค์กรได้อย่างมหาศาล 4. สร้างภาพลักษณ์นายจ้างที่ใส่ใจ: ดึงดูดและรักษาบุคลากรระดับท็อป ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสาร ภาพลักษณ์องค์กร (Employer Branding) ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อบุคลากรคือสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาล การนำรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการถึงที่ทำงาน ไม่ใช่แค่การมอบสวัสดิการพนักงานแต่เป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยอย่างเป็นรูปธรรมที่พนักงานสามารถบอกต่อและสร้างเรื่องราวดีๆ ให้กับองค์กรได้ การที่บริษัทลงทุนในสุขภาพช่องปากพนักงานอย่างจริงจัง ทำให้พนักงานรู้สึกภูมิใจและอยากเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนั้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงในฐานะ “นายจ้างที่ใส่ใจ” ได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน เพราะสวัสดิการพนักงานที่ดีคือภาพสะท้อนของวัฒนธรรมองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยให้บริษัทกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ทำให้สามารถดึงดูดผู้สมัครงานที่มีคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดาย 5. ความผูกพันที่ยั่งยืน: “องค์กรรักเรา เราเลยรักองค์กร” การสร้างความผูกพันองค์กรไม่ใช่แค่การขึ้นเงินเดือนหรือการจัดงานเลี้ยง แต่คือการสร้างความรู้สึกของการเป็น “บ้าน” ที่ดูแลกันและกัน AT U DENTAL BUS เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบในการสื่อสารอุดมการณ์นี้ เมื่อพนักงานเห็นว่าองค์กรลงทุนในสวัสดิการพนักงานที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของพวกเขาโดยตรงโดยไม่หวังผลตอบแทนอย่างเป็นตัวเงิน ความรู้สึกขอบคุณและความภักดีต่อองค์กรจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า “เมื่อองค์กรรักเรา เราจึงรักองค์กร” ทำให้พนักงานไม่คิดอยากลาออกง่ายๆ และพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อความสำเร็จร่วมกันในระยะยาว เพราะสวัสดิการพนักงานที่ดีสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญขององค์กรอย่างแท้จริง 6. เพิ่มอัตราการรักษาบุคลากร: การลงทุนเพื่อลด Employee Turnover การลาออกของพนักงานหนึ่งคนย่อมก่อให้เกิดต้นทุนมหาศาลสำหรับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการสรรหาและฝึกอบรมพนักงานใหม่ รวมถึงความรู้และประสบการณ์ที่ขาดหายไป การมอบสวัสดิการพนักงานด้านสุขภาพที่โดดเด่นและเข้าถึงง่าย เช่น บริการทำฟันถึงที่ ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและกำลังใจให้กับพนักงาน ส่งผลให้อัตราการลาออกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรได้นานๆ คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการสรรหาพนักงานใหม่ในระยะยาว และสวัสดิการพนักงานที่ตอบโจทย์คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ จากสถิติพบว่าอัตราการลาออกที่ลดลงเพียง 1% สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการสรรหาและฝึกอบรมบุคลากรได้เป็นจำนวนเงินมหาศาลต่อปี การลงทุนเพียงเล็กน้อยในสวัสดิการพนักงานที่มีคุณภาพจึงเป็นการป้องกันการสูญเสียบุคลากรที่มีค่าอย่างยั่งยืน 7. เข้าถึงบริการง่าย ไม่ต้องเดินทาง: ประหยัดเวลาและพลังงานของพนักงาน ปัญหาสุขภาพช่องปากหลายครั้งมักถูกมองข้ามเพราะความยุ่งยากในการไปพบทันตแพทย์ การจราจรที่ติดขัด การหาที่จอดรถ และการลางานล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญ การนำรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการถึงที่ทำงานทำให้พนักงานไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ พนักงานสามารถเข้ารับบริการในช่วงพักกลางวันหรือเวลาที่สะดวกได้อย่างง่ายดาย ทำให้ปัญหาสุขภาพช่องปากได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับสุขภาพองค์กรโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นหนึ่งในข้อดีของสวัสดิการพนักงานที่เข้าถึงง่าย นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมให้พนักงานมีวินัยในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เพราะการเข้ารับบริการทำฟันเป็นเรื่องที่ง่ายและไม่ยุ่งยากอีกต่อไป 8. ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพระยะยาว: การป้องกันดีกว่าการรักษา ปัญหาสุขภาพช่องปากสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมได้ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม จากข้อมูลงานวิจัยมากมายพบว่าปัญหาเล็กๆ อย่างฟันผุหรือเหงือกอักเสบอาจลุกลามจนกลายเป็นโรคที่รุนแรง เช่น โรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโรคเบาหวานและโรคหัวใจ การที่องค์กรส่งเสริมให้พนักงานเข้ารับการตรวจสุขภาพและขูดหินปูนเป็นประจำ ถือเป็นการลงทุนเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงที่พนักงานจะเจ็บป่วยด้วยโรคซับซ้อนและต้องใช้ค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นในอนาคต และเป็นอีกมิติของสวัสดิการพนักงานที่คุ้มค่า การดูแลเชิงป้องกันยังช่วยลดโอกาสที่พนักงานจะต้องลาหยุดงานในอนาคตเพื่อเข้ารับการรักษาที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน
โพสต์เมื่อ 18 สิงหาคม 2568

ทำความเข้าใจ C20: น้ำยาฆ่าเชื้อในช่องปากที่ ‘ไม่ใช่’ น้ำยาบ้วนปากทั่วไป

เมื่อคุณหมอจ่ายน้ำยา C20 ให้…ทำไมถึงต้องใช้? หลายครั้งที่เข้ารับบริการทันตกรรม ไม่ว่าจะเป็นหลังการผ่าฟันคุด การขูดหินปูนครั้งใหญ่ หรือมีอาการเหงือกอักเสบ ทันตแพทย์มักจะแนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากชนิดพิเศษที่ชื่อว่า “C20” หรือน้ำยาที่มีส่วนผสมของ Chlorhexidine (คลอร์เฮกซิดีน) หลายคนอาจเข้าใจผิดว่านี่คือน้ำยาบ้วนปากสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ความจริงแล้ว C20 มีคุณสมบัติและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยว่า C20 คืออะไร และทำไมคุณหมอถึงต้องจ่ายยานี้ให้ C20 คืออะไร? และแตกต่างจากน้ำยาบ้วนปากทั่วไปอย่างไร? C20 เป็นชื่อทางการค้าของน้ำยาในช่องปากที่มีสารสำคัญคือ Chlorhexidine Gluconate (คลอร์เฮกซิดีน กลูโคเนต) ที่ความเข้มข้น 0.20% สารชนิดนี้มีฤทธิ์เป็น “ยาฆ่าเชื้อ” ในวงกว้าง (Broad-Spectrum Antiseptic) ที่สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคในช่องปากได้เป็นอย่างดี ความแตกต่างที่สำคัญคือ: ทำไมคุณหมอถึงต้องจ่ายน้ำยา C20 ให้? ทันตแพทย์จะจ่ายน้ำยา C20 ให้ในกรณีที่ต้องการควบคุมหรือลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียในช่องปากอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น: ข้อควรระวังในการใช้น้ำยา C20: แม้จะเป็นยาที่มีประโยชน์ แต่การใช้ C20 ควรเป็นไปตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะหากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานเกินไป อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น: น้ำยา C20 ไม่ใช่น้ำยาบ้วนปากสำหรับใช้ทุกวัน แต่เป็นยาฆ่าเชื้อที่มีฤทธิ์แรง ควรใช้ในกรณีที่มีความจำเป็นและภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์เท่านั้น การเข้าใจในคุณสมบัติที่แท้จริงและใช้อย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการรักษา และช่วยให้สุขภาพช่องปากกลับมาแข็งแรงได้เร็วขึ้นโดยไม่มีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ โปรโมชั่นพิเศษจาก AT U DENTAL หากคุณกำลังมองหาการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพ ที่ AT U DENTAL เรามีโปรโมชั่นสุดคุ้มที่มาพร้อมกับน้ำยาฆ่าเชื้อคุณภาพดี เพื่อให้คุณดูแลสุขภาพฟันได้อย่างสมบูรณ์แบบ 🦷 โปร 1,299 บาท: ขูดหินปูน + เคลือบฟลูออไรด์ 🦷 มาเริ่มต้นการดูแลสุขภาพช่องปากที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าไปพร้อมกับเราได้แล้ววันนี้! FacebookFacebookXXLINELine
โพสต์เมื่อ 10 สิงหาคม 2568

พลิกโฉมสวัสดิการพนักงาน: AT U DENTAL BUS ยกระดับคุณภาพชีวิตชาวอิเลคโทรลักซ์ โดยที่บริษัทไม่เสียค่าใช้จ่าย

สวัสดิการที่ ‘ตอบโจทย์’ คือหัวใจของการทำงานในยุคใหม่ ! ในโลกธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งขัน บุคลากรคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด การสร้างแรงจูงใจและการดูแลพนักงานจึงไม่ใช่แค่เรื่องของผลตอบแทน แต่ยังรวมถึงการจัดหาสวัสดิการที่เข้าถึงง่ายและมีคุณค่าอย่างแท้จริง ที่ AT U DENTAL เราเข้าใจถึงความต้องการนี้เป็นอย่างดี จึงได้พัฒนานวัตกรรม “AT U DENTAL BUS” รถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่ครบครัน เพื่อเป็นโซลูชันที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถยกระดับสวัสดิการด้านสุขภาพช่องปากได้อย่างสะดวกสบายและคุ้มค่า ล่าสุด AT U DENTAL ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการมอบสวัสดิการสุดพิเศษนี้ให้กับพนักงานของ บริษัท อิเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด (โรงงานระยอง) ซึ่งถือเป็นโรงงานขนาดใหญ่และเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า การเข้าถึงการบริการทันตกรรมที่ดีและไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย จึงเป็นการส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น และพร้อมทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ AT U DENTAL BUS: สวัสดิการที่ “ได้” มากกว่าที่คิด การจัดกิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำรถทันตกรรมไปจอดให้บริการ แต่คือการออกแบบโมเดลสวัสดิการที่สร้างประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีจุดเด่นคือการให้บริการในรูปแบบที่พนักงานสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมโดยไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน และบริษัทไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการจัดกิจกรรมนี้ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เรียกว่า “Win-Win-Win Situation” หรือ “มีแต่ได้กับได้” อย่างแท้จริง ยกระดับสวัสดิการด้วยความใส่ใจ คือการสร้าง “The Endless Confidence” เราขอขอบคุณ บริษัท อิเลคโทรลักซ์ ที่ให้ความไว้วางใจในบริการของเรา และขอเชิญชวนองค์กรอื่นๆ ที่มองหาวิธีเพิ่มสวัสดิการด้านสุขภาพช่องปากให้กับพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่บริษัทไม่เสียค่าใช้จ่าย มาปรึกษาและวางแผนร่วมกัน เพื่อมอบ “ความมั่นใจที่ไร้ขีดจำกัด (The Endless Confidence)” ให้กับทีมงานของคุณไปพร้อมๆ กัน 📌 หากองค์กรของคุณสนใจยกระดับสวัสดิการสุขภาพช่องปากให้พนักงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อเราได้ที่ LINE OA: @atudental 🚐 ร่วมกันสร้างรอยยิ้มที่แข็งแกร่งให้กับองค์กร กับ AT U DENTAL BUS FacebookFacebookXXLINELine
โพสต์เมื่อ 10 สิงหาคม 2568

จัดฟันราคาเท่าไหร่? พร้อมขั้นตอนและประเภทการจัดฟันที่ AT U DENTAL

การมีรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีเป็นสิ่งที่ใครหลายคนปรารถนา และ “การจัดฟัน” ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมที่ช่วยแก้ไขปัญหาฟันไม่เป็นระเบียบ ฟันยื่น หรือปัญหาการสบฟันได้ การจัดฟันไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การทำความสะอาดฟันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดโอกาสในการเกิดฟันผุและโรคเหงือกในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การจัดฟันเป็นการตัดสินใจที่ต้องใช้เวลาและงบประมาณ การทำความเข้าใจข้อมูลต่างๆ อย่างรอบด้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดฟันในแง่มุมต่างๆ ทั้งประเภทของเครื่องมือ, ขั้นตอนการรักษา, ไปจนถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ารับการปรึกษาอย่างละเอียดกับทันตแพทย์ ประเภทของการจัดฟันที่ AT U DENTAL ให้บริการ ปัจจุบัน การจัดฟันมีหลากหลายประเภทให้เลือกสรร โดยแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ทั้งในด้านความสวยงาม ความสะดวก และค่าใช้จ่าย ที่ AT U DENTAL เรามีบริการการจัดฟันที่ครอบคลุม เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้เข้ารับบริการ จัดฟันแบบโลหะ (Metal Braces) จัดฟันแบบโลหะเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาฟันที่ซับซ้อน ตัวเครื่องมือทำจากวัสดุโลหะที่แข็งแรงและติดอยู่บนผิวฟันด้านหน้า ข้อดีคือมีราคาเข้าถึงง่ายและให้ผลลัพธ์ที่คาดการณ์ได้ แต่ข้อจำกัดคือมองเห็นได้ชัดเจนและอาจสร้างความรำคาญในช่วงแรก จัดฟันใส (Clear Aligner) สำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามและไม่ต้องการให้ใครเห็นว่ากำลังจัดฟันอยู่ การจัดฟันใสเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยจะใช้ชุดเครื่องมือจัดฟันที่ทำจากพลาสติกใส ซึ่งสามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหารและแปรงฟัน อย่างไรก็ตาม การจัดฟันประเภทนี้จำเป็นต้องอาศัยวินัยในการสวมใส่เครื่องมือให้ได้ตามเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขั้นตอนการจัดฟันตั้งแต่ต้นจนจบที่ AT U DENTAL การจัดฟันเป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลา แต่หากคุณเข้าใจขั้นตอนอย่างละเอียด คุณก็จะสามารถเตรียมตัวและดูแลตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ AT U DENTAL เราให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: ขั้นตอนที่ 1: การปรึกษาและวางแผนการรักษา เริ่มต้นด้วยการนัดหมายเข้ามาปรึกษากับทันตแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการจัดฟันโดยเฉพาะ ทันตแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยสุขภาพช่องปากและโครงสร้างใบหน้าเบื้องต้น พร้อมพูดคุยถึงความต้องการและเป้าหมายในการจัดฟันของคุณ อาจมีการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เช่น การถ่ายภาพในช่องปาก, การถ่ายภาพใบหน้า, การเอกซเรย์เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างกระดูกและตำแหน่งของฟันอย่างละเอียด จากข้อมูลทั้งหมด ทันตแพทย์จะทำการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ขั้นตอนที่ 2: การเตรียมช่องปาก ก่อนจะเริ่มติดเครื่องมือจัดฟัน จำเป็นต้องทำให้ช่องปากสะอาดและมีสุขภาพดีอย่างสมบูรณ์ ทันตแพทย์จะทำการเคลียร์ช่องปาก เช่น ขูดหินปูน, อุดฟันผุ, หรือถอนฟันคุดและฟันบางซี่ตามแผนการรักษา ขั้นตอนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในระหว่างการจัดฟัน ขั้นตอนที่ 3: การติดเครื่องมือและการติดตามผล เมื่อช่องปากพร้อมแล้ว ทันตแพทย์จะทำการติดเครื่องมือจัดฟันตามที่ได้วางแผนไว้ หลังจากนั้น คุณจะต้องเข้าพบทันตแพทย์ตามนัดหมายเป็นระยะเพื่อทำการปรับเครื่องมือและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ในขั้นตอนนี้ ทันตแพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากในขณะจัดฟันอย่างถูกวิธี ขั้นตอนที่ 4: การถอดเครื่องมือและการใส่รีเทนเนอร์ เมื่อฟันเคลื่อนตัวได้ตามตำแหน่งที่ต้องการและทันตแพทย์ประเมินแล้วว่าการรักษาสมบูรณ์ จะทำการถอดเครื่องมือจัดฟันออก หลังจากถอดเครื่องมือแล้ว ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือ การใส่รีเทนเนอร์ เพื่อคงสภาพฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่จัดเรียงไว้ การใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของทันตแพทย์จะช่วยให้รอยยิ้มของคุณสวยงามไปอย่างยาวนาน ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันที่ AT U DENTAL หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับการจัดฟันคือเรื่องของค่าใช้จ่าย ที่ AT U DENTAL เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่โปร่งใสและตรงไปตรงมาเพื่อให้คุณสามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างเหมาะสม ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันจะแตกต่างกันไปตามประเภทของเครื่องมือ, ความซับซ้อนของปัญหาฟันในแต่ละบุคคล, และระยะเวลาในการรักษา ซึ่งทันตแพทย์จะสามารถประเมินและให้ข้อมูลที่ชัดเจนที่สุดได้หลังจากการตรวจวินิจฉัย โดยค่าใช้จ่ายในการจัดฟันจะประกอบไปด้วย: ค่าเครื่องมือจัดฟัน: ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามประเภทที่คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบโลหะ หรือการจัดฟันใส ค่าเตรียมช่องปาก: ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าขูดหินปูน, ค่าอุดฟัน, ค่าถอนฟัน, หรือค่าเอกซเรย์ หากจำเป็นต้องทำตามแผนการรักษา ค่ารีเทนเนอร์: หลังการจัดฟันเสร็จสิ้น จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับรีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันในระยะยาว เพื่อช่วยให้การจัดฟันไม่ใช่เรื่องยากเกินไป ที่ AT U DENTAL เราเข้าใจดีว่าค่าใช้จ่ายอาจเป็นภาระก้อนใหญ่ เราจึงมีช่องทางการชำระเงินที่ยืดหยุ่น โดยคุณสามารถเลือกผ่อนชำระค่าเครื่องมือเป็นงวดๆ ได้ เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นการมีรอยยิ้มที่สวยงามได้ง่ายขึ้น ข้อแนะนำ: วิธีที่ดีที่สุดในการทราบค่าใช้จ่ายที่แน่นอนคือการเข้าปรึกษาทันตแพทย์ผู้มีประสบการณ์ที่ AT U DENTAL โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาเบื้องต้น เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลการวางแผนการรักษาและค่าใช้จ่ายที่ตรงกับปัญหาของแต่ละบุคคลอย่างละเอียดที่สุด ทำไมต้องจัดฟันกับ AT U DENTAL? การตัดสินใจจัดฟันคือการลงทุนในรอยยิ้มและสุขภาพที่ดีในระยะยาว การเลือกคลินิกและทีมทันตแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ AT U DENTAL เราพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ดูแลรอยยิ้มของคุณด้วยความตั้งใจและมาตรฐานการบริการที่ได้คุณภาพ ทีมทันตแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการจัดฟัน: เรามีทีมทันตแพทย์ที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ด้านการจัดฟันโดยเฉพาะ พร้อมให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าการรักษาจะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ: เราใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการสแกนฟันแบบ 3D หรือการเอกซเรย์ที่แม่นยำ เพื่อให้การวางแผนการจัดฟันมีประสิทธิภาพสูงสุด การบริการที่เป็นเลิศในบรรยากาศที่อบอุ่น: บรรยากาศภายในคลินิกของเราได้รับการออกแบบมาให้สะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตร เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจตลอดการรักษา ดูแลครบวงจรตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ: เราพร้อมให้การดูแลและคำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงการคงสภาพฟันหลังจัดฟัน เพื่อให้มั่นใจว่ารอยยิ้มใหม่ของคุณจะอยู่กับคุณไปอย่างยาวนาน “การจัดฟันไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนรอยยิ้ม แต่คือการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยความเข้าใจและประสบการณ์ของทีมทันตแพทย์ที่ AT U DENTAL เราพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรอยยิ้มที่มั่นใจให้กับคุณ” หากคุณกำลังสนใจการจัดฟันและต้องการปรึกษาเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณที่สุด เราขอเชิญชวนให้คุณนัดหมายเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ผู้มีประสบการณ์ที่ AT U DENTAL โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาเบื้องต้น อย่าปล่อยให้ความไม่มั่นใจในรอยยิ้มมาเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต มาเริ่มสร้างรอยยิ้มในแบบที่คุณต้องการไปพร้อมกับเราวันนี้! ช่องทางการติดต่อ เบอร์โทรศัพท์:
โพสต์เมื่อ 7 สิงหาคม 2568